พิธีช้อนขวัญของชาวอีสาน
เมื่อเราประสบเรื่องราวร้ายแรงไม่ว่าจะเป็น รถชนหรือเจ็บไข้ได้ป่วย
การรักษาที่เราจะได้รับคือการรักษาทางกาย โดยจะทำการ รักษาโดยแพทย์
หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ
ซึ่งเป็นการรักษาหลักๆที่เราจะได้รับเมื่อเราประสบเรื่องร้ายแรงดังกล่าว
และนอกจากการรักษาทาง
กายที่มีความสำคัญแล้วยังมีการรักษาทางจิตใจที่มีความสำคัญไม่แพ้การรักษา
ทางกาย ในแต่ละที่แต่ละแห่งจะมีการรักษาทางใจแตกต่างกันไป
แล้วแต่ประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อของตน ว่าจะมีการรักษาทางจิตใจกันแบบใด
พิธีช้อนขวัญก็เป็นพิธีการรักษาอาการเจ็บป่วยทางใจของชาวอีสาน
ที่ทำแล้วก็สืบทอดกันมายาวนาน ตั่งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ไม่
ค่อยมีให้เห็นเด่นชัดเหมือนแต่ก่อนมากนัก
แต่ก็ยังปรากฎให้เห็นบ้างตามชนบทที่มีความเชื่อในเรื่องนี้
พิธีช้อนขวัญจะทำขึ้นในยามที่มีคนได้รับความเจ็บป่วย
หรือประสบอุบัติเหตุ เช่น รถชน ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ชาวอีสานมีความเชื่อ
ว่าเมื่อบุคคลใดประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วยจะทำให้ตกใจ ผวา
ทำให้ขวัญหนี หรือเมื่อหายป่วยแล้วจะมีอาการซึมเซา ไม่สดชื่นแจ่มใส
เหมือนคนปกติ ชาวอีสานก็จะมีการทำพิธีช้อนขวัญ
โดยผู้เฒ่าผู้แก่จะทำพิธีนี้เพื่อช้อนขวัญคนป่วยให้กลับคืนสู่ร่างกายของผู้
ป่วย เพื่อให้มี อาการดีขึ้น ชาวอีสานบางคนกล่าวว่า
หากไม่ไม่ทำพิธีช้อนขวัญคนป่วยกลับคืนมา อาการของผู้ป่วยจะหนักมากกว่าเดิม
แม้อาการทางร่างกายจะ
ดีขึ้นแต่อาการทางจิตใจของผู้ป่วยจะทรุดหนักลงกว่าเดิม
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการทำพิธีก็จะมี สวิง ใช้ในการช้อนขวัญ
หมากพลู บุหรี่ ข้าวเหนียวหนึ่งปั้น จะนำไปให้ผี ไข่ไก่ ที่ต้มสุกหนึ่งฟอง
ฝ้ายใช้สำหรับผูกแขน ของหวานและดอกไม้ ซึ่งบางคนอาจจะไม่เอา
ขั้นตอนการทำพิธีช้อนขวัญ ก็จะนำหมากพลู บุหรี่ ไข่ไก่ ข้าว ฝ้าย
ใส่ลงไปในสวิง จากนั้นนำไปยังผู้ป่วย โดยให้ผู้หญิงกลางคนขึ้นไปทำการ
ช้อนขวัญ บางคนก็บอกว่าต้องมีผู้ชายถือมีดอยู่ด้านหน้าผู้ช้อน
บางคนก็บอกว่าไม่มีก็ได้ บางคนก็บอกว่าต้องมีแต่ผู้หญิงล้วน ล้อมอยูด้าน
หน้าเพื่อทำการไล่ขวัญให้เข้าสวิง
ขณะทำกาข้อนครั้งที่หนึ่งผู้ช้อนจะพูดว่า “ มาเด้อขวัญเอ้ย “
ช้อนครั้งที่สองจะพูดว่า “ มาเด้อขวัญเอ้ย “ พอมาถึงครั้งที่สาม
คนล้อมจะพูดว่า “ เข้าหรือยัง “ คนช้อนก็จะตอบว่า “ เข้าแล้ว “
จากนั้นก็จะมีคนมารวบสวิงแล้วนำผ้ามาคลุมแล้วนำกลับบ้านของผู้ป่วย
พอมาถึงบ้านคนที่นั่ง รออยู่ที่บ้านก็จะถามว่า “ มาไหม “
คนที่ถือสวิงอยู่ก็จะตอบว่า “ มาแล้ว “
จากนั้นก็จะขึ้นไปหาผู้ป่วยแล้วนำเอาสวิงโดยเอา ตรงก้นที่รวบ
ไว้แตะลงไปที่หัวใจของคนป่วย เสร็จแล้วนำ หมากพลู ไข่ ข้าวออกจากสวิง
โดยนำเอาหมากพลู ไข่ ข้าว ใส่ลงไปในมือผู้ป่วย เอาฝ้ายผูกแขนผู้ป่วย
โดยให้คนที่๔อสวิงหรือนำขวัญมาผูกก่อน จากนั้นก็เรียงตามอาวุโส
โดยจะอวยพรให้คนป่วยหายและประสบแต่สิ่งดีๆ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จพิธี
บางครั้งจะมีการปลอกไข่เพื่อเสี่ยงทาย
หากไข่ที่ปลอกออกมามีสภาพปกติก็ถือว่าผู้ป่วยจะหายจากอาการเจ็บป่วย
แต่ถ้าหากว่า ถ้าปลอกไข่ออก
มาแล้วไข่ไม่ปกติก็จะทำนายว่าผู้ป่วยอาจจะไม่หาย
จะเห็นว่าการทำพิธีช้อนขวัญ
จะเป็นการรักษาทางด้านจิตใจมากกว่าการรักษาทางร่างกาย
หากเรามีจิตใจที่ดีแข้มแข็งแล้ว โรคร้ายก็ จะบุกมาทำร้ายเราได้ไม่สะดวกนัก
และจะทำให้การรักษาทางร่างกายทำได้ง่ายและได้ผลยิ่งขึ้น
ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายใดๆก็ตาม
การรักษาทางจิตใจจึงเป็นการรักษาที่มีความสำคัญ
จงรักษาจิตใจของท่านให้เข้มแข็งไว้….
No comments:
Post a Comment