Sunday, October 27, 2013

ข้อมูลท่องเที่ยวเมืองเลย 1

เที่ยวเลย
Click to view full size image
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยเพราะ มีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่ง หญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ
อยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนประกอบด้วยเขาหินทรายและหินแกรนิต สลับกัน สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู สวยงามมาก
ถ้ำมโหฬาร
บ้านหนองหิน ตำบลหนองหิน อยู่ในบริเวณวัดถ้ำมโหฬาร
ถ้ำโพธิสัตว์หรือกุ้ยหลินเมืองไทย
ถ้ำแห่งนี้มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยเรียงรายอยู่ใต้ยอดเขาทั้งหมด 15 คูหา แต่ละคูหามีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น เขาวงกต ถ้ำลับแล สวรรค์ชั้นต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหินย้อยรูปร่างสวยงามแปลกตาอีกมากมาย การเข้าชมนั้นควรติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ อบต.ก่อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้า และการเดินถ้ำวกวนมาก
น้ำตกคริ้ง
อยู่ติดกับถนนสายเหมืองแพร่-ร่มเกล้า บริเวณน้ำตกมีพืชพันธุ์นานาชนิดขึ้นริมฝั่งทำให้ดูมีความอุดมสมบูรณ์ มีก้อนหินเรียงกันเป็นชั้น ๆ ตอนล่างมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ มีศาลาพักผ่อนสำหรับผู้มาเยือน
น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว)
บริเวณบ้านบ่อเหมืองน้อย เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงมาก เกิดจากลำน้ำเหือง บริเวณรอบ ๆ เป็นป่าทึบที่มีความอุดมสมบูรณ์
น้ำตกธารสวรรค์
น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 15 เมตร บริเวณน้ำตกมีศาลาสำหรับพักผ่อน ตอนล่างมีก้อนหินน้อยใหญ่เรียงราย มีสาหร่ายและพันธุ์ไม้นานาชนิดขึ้นบริเวณริมฝั่งสองข้างทาง
น้ำตกปลาบ่า หรือ น้ำตกตาดสาน
น้ำตกที่ตกมาจากแผ่นหินขนาดใหญ่ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างเหมาะสำหรับเล่นน้ำและนั่งพักผ่อนรับประทานอาหาร บริเวณน้ำตกยังไม่มีร้านอาหาร
น้ำตกสวนห้อมหรือน้ำตกสันติธารา
บ้านสวนห้อม การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับสวนหิน แต่อยู่เลยเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร น้ำตกสวนห้อมเป็นน้ำตกขนาดกลาง มองเห็นได้แต่ไกล ไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ บริเวณน้ำตกร่มรื่นเหมาะสำหรับพักผ่อน
น้ำตกเพียงดิน หรือ น้ำตกวิสุทธารา
น้ำตกเพียงดินเป็นน้ำตกขนาดกลาง แต่มีหลายชั้น บางชั้นก็ต้องปีนป่าย บางชั้นก็มีน้ำใสไหลเป็นแอ่ง ลงเล่นน้ำได้ไม่อันตราย บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เหมาะสำหรับพักผ่อน นั่งรับประทานอาหาร
น้ำตกแก่งสองคอน
เป็นธารน้ำกว้างไหลผ่านก้อนหินใหญ่น้อยมากมายลดหลั่นกันลงมาท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวครึ้มทั่วบริเวณ มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน
อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
สถานที่น่าสนใจ ได้แก่ หินสี่ทิศ อยู่บนภูสันทราย ด้านใต้ เป็นหินทรายใหญ่ 4 ก้อน รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตั้งอยู่กลางป่าดิบ จุดสูงที่สุดและเป็นจุดใจกลางของอุทยานฯเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็น ประเทศลาว
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ ภูหลวงประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 มีพื้นที่ประมาณ 560,593 ไร่สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี ตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง ฤดูกาลบนภูหลวงมี 3 ฤดูเหมือนพื้นราบแต่ระดับอุณหภูมิต่างกัน ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-24 องศาเซลเซียสจะมีดอกไม้ที่มีสีสันเจิดจ้าสวยงามเช่นเอื้องตาเหิน กล้วยไม้ป่าดอกขาว กุหลาบขาวและกุหลาบแดง ฤดูฝนอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม อุณหภูมิใกล้เคียงหรือสูงกว่าหน้าร้อนเล็กน้อยจะมีดอกไม้ป่าดอกเล็กๆ สีชมพูอมม่วงขึ้นแซมตามทุ่งหญ้าและเทียนน้อย ฤดูหนาวอุณหภูมิลดลงมาก เฉลี่ย 0-16 องศาเซลเซียส น่าเที่ยวมาก
แก่งคุดคู้
แก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม
ตลาดไม้ดอกไม้ประดับหนองบง
เป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดอกเมืองหนาวและไม้ประดับตามฤดูกาลแหล่งใหญ่ที่สุดของภูเรือ
กลุ่มทอผ้าไทเลยแบบก้างปลา
บ้านก้างปลา มีการรวมตัวกันทอผ้าไทเลย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด มีการสาธิตการทอผ้า และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าผืน เสื้อบุรุษ ชุดสตรี ผ้าขาวม้า กระเป๋า เป็นต้น
หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ
บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว เดิมชาวไทดำอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
อำเภอเชียงคาน
เป็นอำเภอเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงสงบเงียบ ในย่านชุมชนยังคงมีห้องแถวไม้ บ้านไม้เก่า แก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นเสน่ห์ที่สุดคลาสสิกของเชียงคาน บางแห่งตกแต่งทำเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ใกล้ชิดกับชุมชน

เรียบเรียง โดย เอฟ ฟอร์ด
ข้อมูลอ้างอิง จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รูปภาพ โดย Esanphoto.com

ข้อมูลท่องเที่ยวเมืองเลย 2

พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน
ห่างจากอำเภอเมือง ๘๒ กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับงานประเพณีบุญ หลวง และการละเล่นผีตาโขน น่าชมมาก
พิพิธภัณฑ์เมืองเลย
เป็นพื้นที่โบราณสถานแห่งชาติ โดยการรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเลยร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดเลย เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอดีตและปัจจุบัน
ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย
ตั้งอยู่ในสถาบันราชภัฏเลย เป็นอาคาร 2 ชั้น รวบรวมและเผยแพร่เรื่องราวทางด้านศาสนา ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวเลยในหลาย ๆ ด้าน ภายในตัวอาคารศูนย์วัฒนธรรมมีการจัดแสดงแบ่งเป็น 3 ส่วน น่าสนใจมาก
พระธาตุสัจจะ
ประกอบด้วยดอกบัวบานมีกลีบ 3 ชั้น สูงประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่รอบองค์พระธาตุสัจจะ มีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับพระธาตุพนม มีเศวตฉัตร 7 ชั้น ประดิษฐานไว้บนยอดสุดของพระธาตุสัจจะ
พระพุทธบาทถ้ำผาบึ้ง
เป็นโบราณสถานพร้อมกับพระธาตุศรีสองรัก เมื่อ พ.ศ. 2498 เมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในถ้ำจะมองเห็นพระพุทธบาทขนาดใหญ่อยู่บนเพดาน ถ้ำ ลวดลายและนิ้วพระบาทไม่ปรากฏเด่นชัด
พระเจดีย์วัดป่าสัมมานุสรณ์
สร้างตามแบบของกรมศิลปากรขนาดฐานองค์พระเจดีย์กว้างยาวด้านละ 25 เมตร สูง 33 เมตร ก่อสร้างด้วยโครงเหล็ก ก่ออิฐถือปูนและเคลือบด้วยกระเบื้องอย่างดี
วนอุทยานภูผาล้อม
ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 24 กิโลเมตร วนอุทยานแห่งนี้เป็นภูเขาหินปูนสูงชัน ที่มียอดหยักแหลมมากมาย ตั้งโอบล้อมเสมือนเป็นกำแพงตรงกลางเป็นผืนป่าดิบ มีพืชสมุนไพร จุดชมวิว และถ้ำต่าง ๆ ได้แก่ ถ้ำแก้ว ถ้ำผาบ่อง รวมทั้งบ่อน้ำซับ หรือน้ำผุด เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ใจกลางป่า
วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน
เป็นรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 65 เซนติเมตร ประดิษฐานบนหินลับมีด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อพ.ศ. 2478
เสมาหินทรายวัดบ้านปากแบ่งและบ้านนาหลัก
เป็นเสมาหินปักคู่สองหลัก แบบที่มีคู่สลักนูนขึ้นไปจากยอดเสมา เป็นรูปคล้าย ๆ กับสถูปเท่านั้นโดยไม่มีลวดลายใด ๆ
วัดโพธิ์ชัย
ตำบลนาพึง วัดนี้สันนิษฐานว่าสร้างประมาณปลายกรุงศรีอยุธยา พระพุทธรูปองค์แสนที่ประดิษฐานอยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสนั้น เป็นพระพุทธรูปโบราณคู่บ้านคู่เมืองมาหลายชั่วอายุคน
ศาลเจ้าพ่อกุดป่องและศาลหลักเมือง
ห่างจากวงเวียนน้ำพุประมาณ 100 เมตร ติดกับสวนสาธารณะกุดป่อง เป็นศาลเก่าแก่ที่ประชาชนเคารพนับถือ สำหรับศาลหลักเมือง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ราชพฤกษ์ แกะสลักเป็นรูปหัวเม็ดทรงมัณฑน์ ลงรักปิดทองทั้งองค์ มีความสูง 139 เซนติเมตร
สะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว
บ้านนากระเซ็ง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเหือง เชื่อมระหว่างไทย – สปป.ลาว สะพานนี้สามารถเดินทางผ่านไชยะบุรี สู่เมืองมรดกโลก คือ หลวงพระบางได้ ระยะทาง 363 กิโลเมตร หรือเดินทางข้ามไปท่องเที่ยวและซื้อสินค้าปลอดภาษี บริเวณร้านค้าใกล้สะพานฝั่ง สปป.ลาวได้
อาคารที่ทำการ ททท. สำนักงานเลย
ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะกุดป่อง ถนนเจริญรัฐ ใกล้กับเทศบาลเมืองเลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงประทับแรมมุขแรกชั้นบน คราวเสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวจังหวัดเลย เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2498
คำนวนเนิร์สเซอร์รี่
ห่างจากที่ว่าการอำเภอภูเรือ 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรมีไม้ดอกเมืองหนาวและไม้ประดับ โดย   เฉพาะพิทูเนียแขวนและคริสต์มาส
สถานีเกษตรที่สูงภูเรือ
ทำหน้าที่ด้านวิชาการในการศึกษาค้นคว้าทดลองไม้ดอกไม้ผลทั้งของเมืองหนาวและ พืชสวนของท้องถิ่นที่เหมาะสมกับดินฟ้าอากาศและระบบนิเวศ จากนั้นก็ถ่ายทอดเผยแพร่ผลของการศึกษาวิจัยแก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ
พระธาตุศรีสองรัก
ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร
วัดถ้ำผาปู่ หรือ ถ้ำเพียงดิน
ในวัดมีพระธาตุบรรจุอัฐิของหลวงปู่คำดี ปภาโส ผู้ค้นพบวัดแห่งนี้ บริเวณวัดมีลักษณะเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่อยู่ใต้ภูเขาหิน มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ และมีหินงอก หินย้อย นอกถ้ำเป็นแหล่งอาศัยของค่างแว่น ชะนี และลิง
วัดท่าแขก
อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากอำเภอเชียงคาน 2 กิโลเมตร ก่อนถึงแก่งคุดคู้ ปัจจุบันเป็นวัดธรรมยุติ ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูป 3 องค์สกัดจากหินทรายทั้งก้อน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ มีอายุประมาณ 300 กว่าปี
วัดศรีคุณเมือง
ถนนชายโขง ซอย 7 ทางด้านเหนือของตลาดเชียงคาน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2485 มีกำแพงแก้วล้อมรอบตัวพระอุโบสถ วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา
วัดเนรมิตรวิปัสสนา
อยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ที่เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ออกแบบโดยพระและเณร ภายในพระอุโบสถตกแต่งไว้ตามแบบศิลปะส่วนกลาง มีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน และมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ
พระใหญ่ภูคกงิ้ว
พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง
บริษัท ทีเอสเอ จำกัด
บ้านกกโพธิ์ ผลิตไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักต่าง ๆ เพื่อเพาะเมล็ดสำหรับจำหน่าย ภายในบริเวณสามารถเที่ยวชมแปลงไม้ดอกเมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวยงามได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม
ฟาร์มไก่งวงเมืองเลย
อยู่ที่บ้านกอไร่ใหญ่ ตำบลเสี้ยว ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นฟาร์มไก่งวงของนายสถิตย์ ภักดิ์ศรีแพง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ที่ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในจังหวัดเลยเลี้ยงไก่งวง เพื่อเป็นรายได้เสริมและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีคำขวัญว่า “คิดถึงไก่งวง คิดถึงเมืองเลย”
สวนส้มสยามภูเรือ
เป็นสวนส้มโชกุนขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่ปลูกนับร้อยไร่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวนและเลือกซื้อส้มโชกุนที่มีรสชาติหวานอร่อยเป็น ของฝากได้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอภูเรือประมาณ 15 กิโลเมตร
สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯป่าเลิงใหญ่
อำเภอเมือง จ.เลย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ อยู่ตรงข้ามเทศบาลเมืองเลย มีการจัดสวนไม้ดอกไม้ประดับ พื้นที่รอบสวนสาธารณะติดแม่น้ำเลย นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านสะพานแขวนเข้าไปเที่ยวชมได้
สวนหินผางามหรือ คุณหมิงเมืองเลย
บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ภายในสวนหินผางามมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ
สวนเห็ดบ้านภูเรือ
บ้านสานตม ตำบลสานตม เป็นที่เพาะเห็ดหอมและจำหน่ายเห็ดหอมที่มีชื่อแห่งหนึ่งของอำเภอภูเรือ ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาไปเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ บ้านผานาง – ผาเกิ้ง
อำเภอเอราวัณ เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ภายในโครงการทีการทอผ้าไหม เครื่องหัตกรรม และเครื่องครัวที่ผลิตจากไม้ไผ่และไม้สัก โรงเพาะเห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า
สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน หรือ ซา โต้ เดอ เลย
เป็นสวนองุ่นที่มีพื้นที่นับพันไร่ มีทั้งองุ่นที่รับประทานสดและองุ่นสำหรับผลิตไวน์ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมภายในสวนได้และบริเวณด้านหน้าเป็นร้านค้าที่ จำหน่ายผลองุ่นสด ผักปลอดสารพิษ

เรียบเรียง โดย เอฟ ฟอร์ด
ข้อมูลอ้างอิง จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รูปภาพ โดย Esanphoto.com

ไปเที่ยวมาเล่า Unseen เมืองอุบลราชธานี

Unseen เมืองอุบลราชธานี
หลังจากได้เดินทางไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของเมืองดอกบัวงาม จังหวัดอุบลราชธานี ผู้เขียนก็ได้รวบรวมเอาแหล่งท่องเที่ยวแบบอันซีนๆ ที่ใครมาเยือนอุบลฯแล้วต้องไม่พลาดด้วย ความแปลก ความประหลาดและความสวยงามของธรรมชาติ  ได้รังสรรคสิ่งต่างๆ ทำให้ผู้คนได้ชื่นชมได้สัมผัสและในอุบลฯก็มีแหล่งแบบนั้นหลายแห่งด้วยกันน่ะ ครับ แห่งแรก คือ
Click to view full size image
แก่งสองคอน สามพันโบก
คนทั่วไปก็จะเรียกกันว่า สามพันโบก ตั้งอยู่บริเวณบ้านสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก โบก หรือ แอ่งหมาย ถึงบ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ลำน้ำโขงและคำว่า“โบก”เป็นภาษาของลาวที่มักนิยม เรียกกัน และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำกลายเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการ กลางลำน้ำโขง ที่สวยงามแปลกตาจนชาวบ้านเรียกว่าแกรนแคนยอนน้ำโขง ซึ่งจะสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้ ตั้งแต่เดือนธันวาคม-พฤษภาคม ทางเข้าของแกรนแคนยอนแม่น้ำโขง มีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข  ช่วงที่ผู้เขียนได้ไปเป็นช่วงเดือน พฤษภาคมแล้ว ถือว่าเป็นฤดูแล้งใกล้ๆฤดูฝน มีฝนตกลงมาบ้างแล้วทำให้เกิดการผสมผสานความแห้งความแล้งและความเขียวขจี เริ่มเข้ามาน่ะครับ แต่ยังสามารถมองเห็นหาดทราย แก่งหินอย่างสวยงาม ตอนนี้เวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ แดดเริ่มจะตก หรือ เรามักจะเรียกว่า แดดร่มลมตก น่ะครับ ก็ว่ากันไป มาชมความสวยงามต่อน่ะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นจากสามพันโบก ก็คือ รูปร่าง รูปทรง ของหินที่มีรูปร่างลักษณะที่แปลกแตกต่าง  ตามจินตนาการของแต่ละบุคคล  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้เขียนยอมรับให้เป็นอันซีนได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย น่ะครับ แห่งที่สอง ที่จะแนะนำ คือ
Click to view full size image
น้ำตกแสงจันทร์ หรือ น้ำตกลงรู
หลังจากไปเที่ยวสามพันโบกมาแล้วน่ะครับ แห่งที่สองก็ต้องอันซีนอีกแห่งครับ ช่วงที่ผู้เขียนไปเยือนอยู่ในช่วงต้นฤดูฝน น้ำตกจะค่อนข้างมีน้ำเยอะ จะไม่เหมือนช่วงหน้าแล้ง ที่น้ำจะน้อยหรือไม่มีเลยก็ได้  ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวคือช่วงหน้าฝนน่ะครับ เพราะน้ำจะไหลลงรูได้เต็มๆ  แล้วอันซีนอยู่ตรงที่น้ำที่ไหลลงมากระทบแอ่งน้ำด้านล่างจะเป็นรูปหัวใจ ซึ่งแปลกอันซีนมากๆ แต่ต้องน้ำเยอะๆหน่อยน่ะครับถึงจะได้เห็นปรากฎการณ์  ต้องยกให้เป็นอันซีนอีกแห่งครับ     สำหรับแห่งที่สาม ที่ผู้เขียนจะแนะนำก็คือ
Click to view full size image
เถาวัลย์ยักษ์ น้ำตกทุ่งนาเมือง
เป็นอีกอันซีนที่พลาดไม่ได้ครับ  เที่ยวได้ทั้งปีครับ สำหรับเถาวัลย์ยักษ์อายุไม่ต่ำกว่า 300ปี แล้วที่อีนซีนคือ สามารถดำรงคงอยู่ได้จนมาถึงทุกวันนี้   ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ถือว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา แบบว่าธรรมชาติแต่ไม่ธรรมดาเลยน่ะครับ  ถ้ามาช่วงฤดูฝนจะสวยมากๆครับ เพราะจะได้เห็นน้ำตกทุ่งนาเมือง ซึ่งอยู่ด้านล่างของเถาวัลย์ยักษ์ ถ้าน้ำเยอะๆเต็มๆ เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก ผู้เขียนก็ได้ไปเยือนหน้าฝนน่ะครับ ก็เลยได้สัมผัสความสวยงาม ความแปลก ความประหลาด  อันซีนแน่นอนครับ สำหรับอันซีนแห่งที่สี่
ถ้ำมืด
เป็นถ้ำที่มีความลึกประมาณ 1 กม. และมีความกว้างสามารถบรรจุคนได้ประมาณ 1,000 คน เป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำโขงและการไหลบ่าของน้ำจากภูเขา ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปแกะสลัก เรียงรายกันมากมาย แสดงว่าคงจะเคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาก่อน ตั้งอยู่ที่บ้านซะซอม ตามทางหลวงหมายเลข 2112 เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านทุ่งนาเมือง ประมาณ15 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 6 เมตร  เป็นการรังสรรค์ของธรรมชาติอีกแห่ง  อันซีนมากครับ   สำหรับแห่งที่ห้าน่ะครับ
Click to view full size image
น้ำตกห้วยหลวง หรือ น้ำตกบักเตว
เป็นอีกที่สำหรับผู้เขียวให้เป็นอันซีน เนื่องความสวยงาม  ความแปลก ความประหลาด ซึ่งมีอยู่ที่น้ำตกห้วยหลวง อุทยานแห่งชาติ ภูจองนายอย  น่ะครับ  เป็นน้ำตกที่มีหาดทรายขาวเหมือนอยู่ทะเล  ยังไงยังงั้นเลยน่ะครับ ทรายขาวแล้วแถมมีผีเสื้อบินว่อนเต็มไปหมด ช่วงที่น่าเที่ยวก้ปลายฝนต้นหนาวน่ะครับ  มีความสมบูรณ์ของป่าไม้  มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้มากมาย แล้วที่สำคัญบริเวณน้ำตกมีฝูงปลาเป็นหมื่นๆ แสนๆตัว ว่ายวนเวียนไปมา น้ำใสเหมือนน้ำทะเล สวยงามมากครับ ผู้เขียนต้องยกให้เป็นอันซีนอีกแห่งแน่นอนครับ  สำหรับแห่งสุดท้ายที่จะนำเสนอ
Click to view full size image
เก้าพันโบก
เก้าพันโบก (9,000 โบก) เป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ อยู่บริเวณใกล้ๆกับน้ำตกสร้อยสวรรค์ ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม เป็นคนละที่กับสามพันโบก เส้นทางท่องเที่ยวไปเก้าพันโบกแห่งใหม่นี้จะต้องล่องเรือจากบริเวณหาดวิจิต รา
บ้านตามุย ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม เนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ จะเดินทางได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น ใช้เวลานั่งเรือเป็นระยะทาง กว่า 6 กิโลเมตรตลอดเส้นทางการล่องเรือจะได้ชมธรรมชาติและการผจญภัยเนื่องจากลำน้ำ โขงจะมีวังน้ำวนเป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือผ่าน จะประทับใจกับทัศนียภาพริมสองฝั่งแม่น้ำโขงของฝั่งไทย และ ฝั่งลาว มีเทือกเขาและหน้าผาสูงและป่าไม้ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของทั้ง 2 ฝั่งโขงที่เรือแล่นผ่าน ตลอดระยะทางที่ผ่านจะมีโขดหิน น้อยใหญ่ ที่มีลักษณะแปลกตา ตลอดการเดินทาง จะเห็นหน้าผาหินขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผาหินแนวเดียวกันกับผาแต้ม โดยจุดที่มีความสวยงามเป็นบริเวณแก่งหินขนาดใหญ่ กลางลำแม่น้ำโขงของฝั่งไทย อยู่ห่างจากน้ำตกสร้อยสวรรค์ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสวยงามของธรรมชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่ริมฝั่งโขง ซึ่งหาดูได้ยาก  ผู้เขียนต้องยกให้เป็นอันซีนอีกแห่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลยน่ะครับ
สำหรับวันนี้ผู้เขียนก็ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองอุบลฯไว้ 6 แห่งน่ะครับ แต่อีกไม่นานผู้เขียนเชื่อว่าจะไม่ใช่แค่เพียง 6 แห่งของอันซีนเมืองอุบลฯแน่นอน  คงจะมีอีกหลายๆแห่ง  ที่รอการเปิดเผยและสัมผัสต่อๆไปน่ะครับ
“ แหล่ง อันซีน  ไม่ไป บ่ ฮู้ เด้ คร้าบบบ”

เรียบเรียง โดย เอฟ ฟอร์ด
ข้อมูลอ้างอิง จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รูปภาพ โดย Esanphoto.com

การส่อนขวัญ หรือ พิธีช้อนขวัญของชาวอีสาน

พิธีช้อนขวัญของชาวอีสาน
เมื่อเราประสบเรื่องราวร้ายแรงไม่ว่าจะเป็น รถชนหรือเจ็บไข้ได้ป่วย การรักษาที่เราจะได้รับคือการรักษาทางกาย โดยจะทำการ รักษาโดยแพทย์ หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการรักษาหลักๆที่เราจะได้รับเมื่อเราประสบเรื่องร้ายแรงดังกล่าว และนอกจากการรักษาทาง กายที่มีความสำคัญแล้วยังมีการรักษาทางจิตใจที่มีความสำคัญไม่แพ้การรักษา ทางกาย  ในแต่ละที่แต่ละแห่งจะมีการรักษาทางใจแตกต่างกันไป แล้วแต่ประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อของตน ว่าจะมีการรักษาทางจิตใจกันแบบใด
พิธีช้อนขวัญก็เป็นพิธีการรักษาอาการเจ็บป่วยทางใจของชาวอีสาน ที่ทำแล้วก็สืบทอดกันมายาวนาน ตั่งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ไม่ ค่อยมีให้เห็นเด่นชัดเหมือนแต่ก่อนมากนัก แต่ก็ยังปรากฎให้เห็นบ้างตามชนบทที่มีความเชื่อในเรื่องนี้
พิธีช้อนขวัญจะทำขึ้นในยามที่มีคนได้รับความเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ เช่น รถชน ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ชาวอีสานมีความเชื่อ ว่าเมื่อบุคคลใดประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วยจะทำให้ตกใจ ผวา ทำให้ขวัญหนี หรือเมื่อหายป่วยแล้วจะมีอาการซึมเซา ไม่สดชื่นแจ่มใส เหมือนคนปกติ ชาวอีสานก็จะมีการทำพิธีช้อนขวัญ โดยผู้เฒ่าผู้แก่จะทำพิธีนี้เพื่อช้อนขวัญคนป่วยให้กลับคืนสู่ร่างกายของผู้ ป่วย เพื่อให้มี อาการดีขึ้น ชาวอีสานบางคนกล่าวว่า หากไม่ไม่ทำพิธีช้อนขวัญคนป่วยกลับคืนมา อาการของผู้ป่วยจะหนักมากกว่าเดิม แม้อาการทางร่างกายจะ ดีขึ้นแต่อาการทางจิตใจของผู้ป่วยจะทรุดหนักลงกว่าเดิม
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการทำพิธีก็จะมี สวิง ใช้ในการช้อนขวัญ หมากพลู บุหรี่ ข้าวเหนียวหนึ่งปั้น จะนำไปให้ผี ไข่ไก่ ที่ต้มสุกหนึ่งฟอง ฝ้ายใช้สำหรับผูกแขน ของหวานและดอกไม้ ซึ่งบางคนอาจจะไม่เอา
ขั้นตอนการทำพิธีช้อนขวัญ ก็จะนำหมากพลู บุหรี่ ไข่ไก่ ข้าว ฝ้าย ใส่ลงไปในสวิง จากนั้นนำไปยังผู้ป่วย โดยให้ผู้หญิงกลางคนขึ้นไปทำการ ช้อนขวัญ บางคนก็บอกว่าต้องมีผู้ชายถือมีดอยู่ด้านหน้าผู้ช้อน บางคนก็บอกว่าไม่มีก็ได้ บางคนก็บอกว่าต้องมีแต่ผู้หญิงล้วน ล้อมอยูด้าน หน้าเพื่อทำการไล่ขวัญให้เข้าสวิง
ขณะทำกาข้อนครั้งที่หนึ่งผู้ช้อนจะพูดว่า “ มาเด้อขวัญเอ้ย “ ช้อนครั้งที่สองจะพูดว่า “ มาเด้อขวัญเอ้ย “ พอมาถึงครั้งที่สาม คนล้อมจะพูดว่า “ เข้าหรือยัง “ คนช้อนก็จะตอบว่า “ เข้าแล้ว “ จากนั้นก็จะมีคนมารวบสวิงแล้วนำผ้ามาคลุมแล้วนำกลับบ้านของผู้ป่วย พอมาถึงบ้านคนที่นั่ง รออยู่ที่บ้านก็จะถามว่า “ มาไหม “ คนที่ถือสวิงอยู่ก็จะตอบว่า “ มาแล้ว “ จากนั้นก็จะขึ้นไปหาผู้ป่วยแล้วนำเอาสวิงโดยเอา ตรงก้นที่รวบ ไว้แตะลงไปที่หัวใจของคนป่วย เสร็จแล้วนำ หมากพลู ไข่ ข้าวออกจากสวิง โดยนำเอาหมากพลู ไข่ ข้าว ใส่ลงไปในมือผู้ป่วย เอาฝ้ายผูกแขนผู้ป่วย โดยให้คนที่๔อสวิงหรือนำขวัญมาผูกก่อน จากนั้นก็เรียงตามอาวุโส โดยจะอวยพรให้คนป่วยหายและประสบแต่สิ่งดีๆ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จพิธี
บางครั้งจะมีการปลอกไข่เพื่อเสี่ยงทาย หากไข่ที่ปลอกออกมามีสภาพปกติก็ถือว่าผู้ป่วยจะหายจากอาการเจ็บป่วย แต่ถ้าหากว่า ถ้าปลอกไข่ออก มาแล้วไข่ไม่ปกติก็จะทำนายว่าผู้ป่วยอาจจะไม่หาย
จะเห็นว่าการทำพิธีช้อนขวัญ จะเป็นการรักษาทางด้านจิตใจมากกว่าการรักษาทางร่างกาย หากเรามีจิตใจที่ดีแข้มแข็งแล้ว โรคร้ายก็ จะบุกมาทำร้ายเราได้ไม่สะดวกนัก และจะทำให้การรักษาทางร่างกายทำได้ง่ายและได้ผลยิ่งขึ้น ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายใดๆก็ตาม การรักษาทางจิตใจจึงเป็นการรักษาที่มีความสำคัญ จงรักษาจิตใจของท่านให้เข้มแข็งไว้….

งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาเมืองอุบล

งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาเมืองอุบล
ถ้าใครเอ่ยถึงงานแห่เทียนหรือเทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษาแล้ว ต้องนึกถึงจังหวัดอุบลราชธานี เพราะงานแห่เทียนพรรษาของเมืองอุบล มีชื่อเสียงเป็นที่ รู้จักของทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ทุก ๆปีจะมีนักท่องเดินทางมายลโฉมความงาม ความยิ่งใหญ่ของต้นเทียนที่ได้ทำอย่างงดงามและสวยงามเป็นที่ประทับตาประทับ ใจของนักท่องเที่ยว
Click to view full size image
งานแห่เทียนพรรษาเป็นประเพณีปฏิบัติของชาวพุทธ ที่ได้กระทำมาแต่ครั้งพุทธกาล เหตุที่ทำให้เกิดประเพณีเพราะสมัยก่อน มีภิกษุได้เดินไปเหยียบย่ำข้าวกล้าในนาของชาวบ้านทำให้ได้รับความเดืออดร้อน
ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้อนุญาติให้ภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษาที่วัดเป็นเวลา 3 เดือนคือในช่วงวันแรมหนึ่งค่ำเดือนแปด ถึงวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือน 11 ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวของชาวบ้านพอดีในช่วงเข้าพรรษานี้ประชาชน จะนำเทียนไปถวายพระภิกษุเพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนเฮลียวแลาดมีไหวพริบปฏิภาณ ประดุจขี้ผึ้งที่ใช้ทำเทียนที่ได้จากรังผึ้ง
ส่วนความเป็นมาของเทศกาลแห่เทียนของชาวเมืองอุบลนั้น แต่ก่อนไม่ได้แห่เทียนเหมือนในปัจจุบัน แต่จะทำการฟั่นเทียน ยาวรอบศีรษะไปถวายพระเพื่อจุดบูชาในช่วงจำพรรษา นอกจากเทียนแล้วยังมีน้ำมัน เครื่องไทยทาน และผ้าอาบน้ำฝนพอมาถึงสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิ์ประสงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองอุบล ครั้งหนึ่งได้มีการแห่บั้งไฟและได้เกิดเรื่องมีการตีกันทำให้มีคนเสียชีวิต จึงทำให้ถูกเลิกการแห่บั้งไฟ และได้เปลี่ยนมาเป็นการแห่เทียนแทน
การแห่เทียนในยุคแรกๆชาวบ้านจะร่วมบริจาคเทียน แล้วนำเทียนมามัดติดกับลำไม้ไผ่ติดกระดาษเงินสีทองตัดลายฟันปลามาติดปิดรอย ต่อ เสร็จแล้วนำต้นเทียนมัดติดกับปิ๊บน้ำมันก๊าด โดยใช้เกวียนหรือล้อเลื่อนลากจูง และมีขบวนฟ้อนรำด้วยต่อมาได้มีการหล่อดอกจากผ้าพิมพ์แล้วมีการประยุกต์ ประดับฐานต้นเทียนด้วยรูปแกะสลักสัตว์ ลายไม้ฉลุทำให้ต้นเทียนดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
Click to view full size image
หลังจากนั้นประชาชนก็เห็นความสำคัญประเพณีแห่เทียนมากขึ้น จังหวัดก็ได้ส่งเสริมให้เป็นงานประจำปีในช่วงนั้นมีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือ ประเภทมัดเทียนรวมกันแล้วติดกระดาษสี กับประเภทพิมพ์ลายติดลำต้น การทำต้นเทียนก็ได้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนมาถึงการแกะสลักลงบนต้นเทียนโดยตรง ซึ่งเป็นการแกะที่ต้องอาศัยฝีมือเป็นอย่างยิ่ง      ต่อมาประเพณีแห่เทียนพรรษาจึงได้จดการประกวด3 ประเภท โดยเพิ่มประเภทแกะสลักลงบนต้นเทียนลงไป
งานประเพณีแห่เทียนพรรษาได้รับการส่งเสริมจากทางจังหวัดมากขึ้น จนทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสนับสนุนให้เป็นงานประเพณีระดับชาติ ทำให้งานแห่เทียนพรรษาเมืองอุบลเป็นที่ยอมรับของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ เดินทางมาเที่ยวกันมากมายในแต่ละปี

นามสกุลเก่าชาวเมืองอุบล

บุญแจกข้าว
การทำบุญแจกข้าวเป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องที่ได้ ล่วงลับไป ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา ซึ่งผู้เสียชีวิตเหล่านั้นได้เสียชีวิตไปได้ไม่นานมากนัก ประมาณ 1-3 ปี
โดยการทำบุญแจกข้าวนี้ ต้องมีการระบุไปว่ามีความต้องการจะทำบุญแจกข้าวให้ใคร โดยจะมีการจัดงานกันใหญ่พอสมควร โดยมีการบอกกล่าวเพื่อนบ้านใกล้เคียงและ ภายในหมู่บ้านหรือต่างหมู่บ้าน และมีการบอกกล่าวไปถึงญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลให้มาร่วมงานนี้ด้วย
งานทำบุญแจกข้าวนี้นิยมทำกันในเดือนสี่ จะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวอีสานว่างเว้นจากการทำไร่ไถนา จึงเป็น ช่วงเวลาที่เหมาะในการทำกิจกรรมนี้ การทำบุญแจกข้าวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับชาวอีสานเพราะชาวอีสานมี ความเชื่อว่าทุกคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ต้องได้กินข้าวแจก หากคนใดที่เสียชีวิตไปแล้วแล้วไม่ได้ทำบุญแจกข้าวไปให้บุคคลนั้นจะได้รับ ความอดอยากไม่ได้ไปผุดไปเกิด จะยังคงวนเวียนเพื่อ รอรับข้าวแจก จากญาติพี่น้องต่อไป
บุคคลใดเมื่อมีญาติที่เสียชีวิตไปแล้วไม่ได้ทำบุญแจกข้าวอุทิศส่วนกุศลไป ให้ ก็จะถูกดูหมิ่นดูแคลนจากคนภายในหมู่บ้าน ว่าไม่รู้ จักบุญคุณไม่ รักใคร่ญาติที่เสียชีวิตไป เป็นคนเห็นแก่ตัวไม่รู้จักเสียสละ
ก่อนการทำบุญแจกข้าวจะมีการบอกเล่าญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านว่าจะมีการทำ บุญ ให้ญาติที่เสียชีวิตไป พอถึงวันทำบุญในช่วงตอน กลางวัน จะมีการจัดแต่งเครื่องไทยทาน เรียกว่า ห่ออัฎฐิ และมีการจัดเลี้ยง อาหารกลางวันแก่ผู้ที่มาจัดแต่งเครื่องไทยทานและมาช่วยงานใน เรื่องต่างๆ บางครั้งภายในงานก็จะมีการบว๙นาคด้วย ในช่วงเย็นก็จะมีการฟังเทศน์และในช่วงกลางคืนก็ก็จะมีงานมหรสพที่เจ้า ภาพของงานว่าจ้างมา ไม่ว่าจะเป็น หมอลำ ภาพยนตร์ เป็นต้น
ในช่วงเช้าของวันใหม่จะมีการถวายอาหารและเครื่องไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยจะนิมนต์มาบ้านเจ้าภาพหรือนำไปถวายที่วัดก็ได้ หลังจาก นั้นก็จะมีการถวายผ้าบังสกุล ฟังเทศน์ และกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไป หลังจากนั้นก็จะมีการจัดเลี้ยงอาหารให้ผู้ที่มา ร่วมงาน ก็เป็นอันเสร็จพิธี การทำบุญแจกข้าวแก่ญาติที่เสียชีวิตไป
ชนชาวอีสานถือเรื่องความกตัญญูต่อญาติพี่น้องและผู้มีพระคุณ การจัดงานทำบุญแจกข้าวจึงเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้ที่เสีย ชีวิตไป เพื่อให้ดวงวิญญาณของคนเหล่านั้นได้รับบุญกุศลและไปเกิดใหม่ไม่ต้องวนเวียน เพื่อรอรับส่วนบุญอีกต่อไป

หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบล

หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง
Click to view full size image
ในสมัยโบราณวัดจะเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ของผู้คน ในสมัยก่อนวัดจึงเปรียบได้กับโรงเรียนในสมัยปัจจุบัน จังหวัดอุบลเป็น จังหวัดที่มีวัดวาอารามมากมายจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ทั้งที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองหรือตั้งอยู่ต่างอำเภอ จังหวัดอุบลเป็นศูนย์กลางทางด้านการ ศึกษาหาความรู้ของผู้คนในบริเวณท้องถิ่นแถวนี้ จังหวัดอุบลเป็นที่รู้จักในนามว่า เมืองนักปราชญ์ การที่จังหวัดอุบลมีวัดวาอารามมากมายนี้ ทำให้เกิด งานทางด้านสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาขึ้น และงานทางด้านสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด อุบลก็คือ หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง โดยตั้งอยู่ภายในวัดทุ่งศรีเมือง วัดใหญ่ใจกลางเมืองอุบล เป็นวัดเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายมหานิกาย
หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง เป็นหอไตรที่มีความสวยงามเป็นที่ประทับตาประทับจิตเป็นอย่างยิ่ง มีความแตก ต่าง จากหอไตรที่เคยพบเห็น มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งในด้านการออกแบบและบริเวณที่ตั้ง โดยหอไตรแห่งนี้จะ ตั้งเด่น อยู่ กลางสระน้ำ สาเหตุของการตั้งหอไตรอยู่กลางสระน้ำ ก็เพื่อเป็นการป้องกันปลวกและแมลงต่างๆที่จะมากัดกินและ ทำลาย พระไตรปิฎกที่นำไปเก็บรักษาไว้ในหอไตร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาทางด้านการออกแบบที่มีความชาญฉลาดยิ่งของบรรพบุรุษของ เรา
Click to view full size image
ในด้านการออกแบบหอไตรแห่งนี้ มีลักษณะของศิลปะผสมของ 3 สกุลช่างคือ ไทย พม่า และลาว ลักษณะตัว อาคารเป็นแบบไทย เป็นเรือนฝาประกนขนาด 4ห้อง ส่วนหลังคามีลักษณะศิลปะไทยผสมพม่า มีช่อฟ้าใบระกา หลังคาซ้อนกัน 3 ชั้น ลดหลั่นกันทำให้ดูมีความลงตัวและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปกรรมพม่าที่ส่งผ่านมาทาง ศิลปะลาวล้านช้าง ส่วนลวดลายแกะสลักบนหน้าบันสองด้านเป็นศิลปะลาวที่เป็นฝีมือของช่างชั้นสูง จากเวียงจันทน์ ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของหอไตรแห่งนี้คือคันทวยด้านซ้ายและด้านขวาของ ประตูทางเข้า สลักเป็นเทพพนม คันทวยอื่นๆ รอบอาคารเป็นคันทวยรูปพญานาค หอไตรวัดทุ่งศรีเมืองแห่งนี้เคยถูกจัดเข้าเป็น 1 ใน 3 ของดีเมืองอุบล จนมีคำกล่าว กันจน ติดปากว่า “พระบาทวัดกลาง พระบางวัดใต้ หอไตรวัดทุ่ง”
ปัจจุบันนี้หอไตรวัดทุ่งศรีเมืองอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ สภาพของหอไตรในปัจจุบันอยู่ในสภาพที่ดีเพราะได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์เป็น อย่างดีจากทางวัดและกรมศิลปากร
หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง ถือเป็นงานทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ถือได้ว่าเป็นงาน สถาปัตยกรรมที่มีความน่าสนใจ ผู้ที่มีความสนใจทางด้านงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมไม่ควรพลาด ควรหาโอกาสแวะมาเยี่ยมชมความสวยงามและหาความรู้จากหอไตรแห่งนี้ และหอไตรแห่งนี้จะเป็นอาจารย ์ที่ดีที่จะให้ความรู้แก่คุณอย่างแน่นอน

ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ปราสาทหินพนมรุ้ง

ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ปราสาทหินพนมรุ้ง มณฑปด้านทิศตะวันออกปราสาทประธาน พระ นารายณ์บรรทมตะแคงขวา อยู่เหนือพระยาอนันตนาคราช  นารายณ์ทรงถือ คฑา จักร สังข์ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ได้รับอิทธิพลจากคัมภีร์วราหปุราณะ, อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง , บุรีรัมย์ , พนมรุ้ง , หน้าบัน ,ทับหลัง ,ปราสาทขอม, ปราสาทหิน,

ฮีต 12 ประเพณีอันดีงามของชาวอีสาน

ฮีต นั้น คือ จารีต เป็นประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติ สืบทอดกันมานานแสนนาน
ฮีต 12 ของชาวอีสานก็คือ ภายใน 12 เดือน ในแต่ละปี จะมีประเพณีปฏิบัติสืบทอดกันมา ดังนี้
เดือนอ้าย เดือนเจียง งานบุญเข้ากรรม
เดือนยี่ งานบุญคูนลาน
เดือนสาม งานบุญข้าวจี่
เดือนสี่ งานบุญพระเวส
เดือนห้า งานเทศกาลสงกรานต์ หรือ สังขานต์
เดือนหก งานบุญบั้งไฟ
เดือนเจ็ด งานบุญชำฮะ
เดือนแปด งานบุญเข้าพรรษา
เดือนเก้า งานบุญข้าวประดับดิน
เดือนสิบ งานบุญข้าวสาก
เดือนสิบเอ็ด งานบุญออกพรรษา
เดือนสิบสอง งานบุญกฐิน

คองสิบสี่ ข้อวัตรปฏิบัติที่ถูกที่ควรของคนอีสาน

คองสิบสี่ นั้นเป็นข้อปฏิบัติแนวทาง ตามธรรมเนียมประเพณี ที่ถูกต้องและควรจะเป็น
คองสิบสี่ จะเป็นข้อวัตรปฏิบัติที่ถูกที่ควรของประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พระมหากษัตริย์ ผู้ปกครองบ้านเมือง พระสงฆ์  ประชานคนทั่วไป
Click to view full size image
คองสิบสี่ ประกอบไปด้วย
1.ฮีตเจ้าคองขุน
2.ฮีตท้าวคองเพีย
3.ฮีตไพร่คองนาย
4.ฮีตบ้านคองเมือง
5.ฮีตปู่คลองย่า
6.ฮีตตาคองยาย
7.ฮีตพ่อคองแม่
8.ฮีตใภ้คองเขย
9.ฮีตป้าคองลุง
10.ฮีตลูกคองหลาน
11.ฮีตเถ้าคองแก่
12.ฮีตปีคองเดือน
13.ฮีตไฮ่คองนา
14.ฮีตวัดคองสงฆ์
————————————————————-
อ้างอิงจาก
- สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. “6.4.3 พุทธศาสนาในปัจจุบัน”. ประมวลสาระชุดวิชาไทยศึกษา หน่วยที่ 1-7. พิมพ์ครั้งที่ 15. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2552. หน้า 319.
- ฮีตสิบสองคองสิบสี่, ชมรมอีสานและภูมิภาคอินโดจีนศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

งานบุญ ฮีต 12 ของชาวอีสาน

บุญเข้ากรรม
เดือนอ้าย หรือ เดือนเจียง โดยพระสงฆ์จะมีการเข้ากรรม  หรือ เข้า ปริวาส เพื่อเป็นการล้าง มลทิน อาบัติต่างๆ  โดยจะอยู่กับประมาณ 6-9 วันหลังจากนั้น
ชาวบ้านก็จะมาถวาย อาหาร เช้าและเพล  มีความเชื่อว่าถ้าใครได้มาทำบุญในช่วงนี้  จะได้รับบุญบารมีมาก
 บุญคูณลาน หรือ บุญกุ้มข้าว
ช่วงเดือนที่สองของไทย จะมีประเพณีอีสานที่ชื่อว่า  บุญคูณลาน  หรือ บุญกุ้มข้าว จะเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวทำนาทำไร่เสร็จกัน  ก็จะนำข้าวหรือผลผลิต
มาถวายวัด  เพื่อทำนุบำรุงศาสนาต่อไป  ก็จะการปฏิบัติแบบนี้ทุกๆปี ในเดือนสองของไทย
 บุญข้าวจี่
ช่วงเดือนที่สามของไทย  ชาวอีสานจะมีประเพณีที่เรียกว่า บุญข้าวจี่ จะมีการเลี้ยงพระภูมิเจ้าที่ ตามท้องนา ที่คอยดูแลผลผลิตทางการเกษตร
และจะมีพิธีการต่างๆ  ทำบุญแผ่กุศลให้กับผีบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปด้วย แล้วจะมีการทำข้าวจี่ โดยใช้ข้าวเหนี่ยวปั้นเป็นก้อนกลมสอดไส้น้ำตาลหรือน้ำอ้อย
ชุบไข่ปิ้งจนเหลือง แล้วนำไปถวายพระพร้อมอาหารคาวหวาน ตามศรัทธา
 บุญพระเหวด  หรือ บุญพระเวส
พอเข้าช่วงเดือนสี่ของไทย ก็จะมีประเพณีที่ชาวอีสานเรียกว่า  บุญพระเหวด  บุญพระเวส ก็จะมีการฟังเทศน์ฟังธรรม แห่พระเวสสันดรเข้าเมือง
ชาวบ้านก็จะมีการไปตั้งขบวณพิธีกันตามป่าใกล้ๆหมู่บ้าน  แล้วก็มีการทำพิธีกรรมทางศาสนาก่อนที่ป่านั้นๆ  แล้วจึงมีการแห่เฉลิมฉลองการเข้าเมือง
อีกครั้งของพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชาติของพระพุทธเจ้า  กิจกรรมก็จะมีการ เทศน์มหาชาติ
บุญสรงน้ำ หรือ เทศกาลสงกรานต์
ช่วงเดือนที่ห้าของไทย หรือ 13 เมษายน ของทุกปี  ก็จะมีประเพณีที่เรียกว่า  ประเพณีสรงน้ำ หรือ สงกรานต์  ซึ่งชาวอีสานที่ไปทำงานต่างพื้นที่ก็จะกลับมา
ที่บ้านถิ่นกำเนิดตัวเอง เพื่อจะได้ร่วมงาน  กิจกรรมของชาวอีสานก็จะมีการ   นำพระคู่บ้านคู่เมืองของแต่ละพื้นที่มาสรงน้ำ  หรือเป็นการทำความสะอาดพระพุทธรูป
ต่างๆในรอบหนึ่งปี  ตามความเชื่อของชาวบ้านถือว่ามีความศักสิทธิ์  น้ำที่ได้จากการล้างพระพุทธรูป ชาวบ้านก็จะนำเก็บมาเป็นสิริมงคลต่อไป  ช่วงนี้ตามจังหวัดต่างๆ ของอีสานจะมีความคึกคักอย่างมาก
Click to view full size image
บุญบั้งไฟ
เดือนหกของไทย ชาวอีสานมีความเชื่อในเรื่องพญาแถน ที่เป็นเทพเทวดาที่ดูแลในเรื่องน้ำเรื่องฝน การจุดบุญบั้งไฟ ชาวอีสานเชื่อว่าเป็นการบูชาพญาแถน ให้บันดาลฝนมาให้กับชาวบ้านได้ทำนากันอย่างอุดมสมบูรณ์  ก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย และที่เป็นไฮไลน์ คือการจุดบั้งไฟ  ที่ในปัจจุบันมีการทำบั้งไฟหลากหลายแบบหลายประเภท เป็นช่วงที่มีเงินสะพัดในหมู่บ้านนั้นๆที่มีการจัดงานบุญบั้งไฟ
บุญชำฮะ หรือ ชำระ
เดือนเจ็ดของไทย ชาวอีสานมีบุญชำฮะหรือชำระ มีความเชื่อว่าเมื่อถึงเดือนเจ็ดก็จะทำการชำระบาปต่างๆของตัวเองให้สะอาด บริสุทธิ์  ก็จะมีการทำบุญ ฟังเทศน์ ฟังธรรม  บางพื้นที่เรียกว่า บุญเบิกบ้าน
บุญเข้าพรรษา
เดือนแปดบุญเข้าพรรษา  เป็นประเพณีหลักของชาวพุทธอยู่แล้ว ก็จะมีการถวายผ้าอาบน้ำฝน เครื่องอัฐบริขารของพระสงฆ์เพื่อใช้ในการจำพรรษาช่วงฤดูฝน ส่วนชาวบ้านก็มีการจัดพิธีแห่ต้นเทียน  ประกวดต้นเทียนต่างๆ มีการละเล่น กิจกรรมต่างๆ ตามแต่พื้นที่นั้นๆ
บุญข้าวประดับดิน
เดือนเก้าบุญข้าวประดับดินเป็นบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษเพราะมี ความเชื่อว่าเมื่อถึงเดือนเก้า ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วจะมาเยี่ยมญาติที่โลกมนุษย์ จึงมีการจัดข้าวปลา อาหาร คาวหวาน ไปไว้ที่วัดตาม ที่เก็บอัฐิธาตุของบรรพบุรุษ เพื่อแสดงถึงความกตัญญู ก็จะทำกันในช่วง ตีสามถึงตีสี่ของเดือนเก้า
บุญข้าวสาก หรือ บุญฉลาก
เดือนสิบ ขึ้น 15 ค่ำ จะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการจัดข้าวปลา อาหารใส่ห่อ เขียนชื่อ แล้วให้กับพระภิกษุสงฆ์ได้จับฉลากว่าจะได้ของใคร คนที่จับได้ก็จะเป็นเจ้าภาพในวันนั้นไป
Click to view full size image
บุญออกพรรษา
เดือนสิบเอ็ดบุญออกพรรษา เป็นวันสุดท้ายที่พระสงฆ์จะอยู่จำพรรษาในช่วงฤดูฝน  ในช่วงนี้พระสงฆ์ก็จะแสดงอาบัติต่อพระแก่พรรษาแล้วว่ากล่าวตักเตือนกันใน หมู่สงฆ์  ชาวบ้านก้มีพิธีตักบาตรเทโว  แห่ปราสาทผึ้ง ทำโคมไฟ ทำโคมลม โคมลอยในวันออกพรรษา
บุญกฐิน
เดือนสิบสองหลังเดือนออกพรรษา เป็นช่วงแรมหนึ่งค่ำเดือนสิบเอ็ด ถึง ขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสิบสอง ก็จะมีการถวายผ้ากฐิน เครื่องอัฐบริขารให้กับพระสงฆ์ มีความเชื่อว่าใครได้ทำกฐินจะได้บุญมาก  ก็จะมีการเจริญพระพุทะมนต์ ถวายผ้ากฐิน ชาวบ้านก็จะมีการจุดพลุและตะไล  ตามความเชื่อของคนอีสาน

เรียบเรียง โดย เอฟ ฟอร์ด
รูปภาพ โดย Esanphoto.com

อุทยานธรณี ผาชัน สามพันโบก อุทยานธรณี แห่งแรกของเมืองไทย

อุทยานธรณี ผาชัน สามพันโบก  อุทยานธรณี  แห่งแรกของเมืองไทย
อุทยานธรณี ผาชัน สามพันโบก จะครอบคลุม สาม อำเภอ ในจังหวัดอุบลราธานี  ได้แก่ อำเภอศรีเมืองใหม่ ,อำเภอโพธิ์ไทร , และ อำเภอโขงเจียม  โดยอุทยานธรณี ผาชัน สามพันโบก จะมีพื้นที่ เลียบตามลำน้ำโขง
Click to view full size image
Esan-photo-14-01-2013_2850929.jpg Esan-photo-14-01-2013_2851029.jpg Esan-photo-14-01-2013_2851329.jpg
บริเวณอุทยานธรณี ผาชัน สามพันโบก จะมีความสวยงามและโดดเด่น ด้าน ธรณีวิทยา มีเกาะแก่งโขดหิน ที่สวยงาม
อันเกิดจากการสะสมของตะกอนแม่น้ำ มาหลายล้านปี  ทำให้เกิดความงามตามธรรมชาติ
หากมีเวลา ควรหาโอกาส ไปสัมผัส ความงามของ อุทยานธรณี ผาชัน สามพันโบก  อุทยานธรณี  แห่งแรกของเมืองไทย ได้

.
เรียบเรียง โดย อีสานโฟโต้  ดอทคอม

ข้อมูลอ้างอิง จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รูปภาพ โดย Esanphoto.com

มาเบิ่ง มาเที่ยวภาคอีสาน

เชิญชวนคนมาเที่ยวภาคอีสาน
ไปเที่ยวกันไหม วันหยุดยาวแบบนี้ จะไปก็รีบไปกัน ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องคิดเยอะ เพียงเตรียมความพร้อมเรื่องสุขภาพ และเตรียมเวลาอย่างพอเหมาะแต่ละทริป ก็ออกเดินทางกันได้แล้ว ….
สำหรับทริปนี้ กับใครที่เบื่อๆทะเล เบื่อแม่น้ำ เบื่อสถานท่องเที่ยวแบบเดิมๆ เราอยากชวนท่านไปเที่ยวภูเขา ต้นไม้ สองเรากันคะ แต่ไม่ได้ไปภาคเหนือนะคะ แต่อยากให้ไปเปลี่ยนบรรยากาศกันที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย เรียกง่ายๆ ภาคอีสาน
ย้ำอีกนิดเราจะไปท่องเที่ยว ภาคอีสาน คะ ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้ไปกันอย่างแน่นอน
Click to view full size image
ก่อนอื่น ลบภาพเดิมๆที่คิดว่า ภาคอีสาน แห้งแล้ง ไปก่อน เพราะปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว ภาคอีสาน มีแหล่งธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา แม่น้ำมากมาย อากาศแม้จะดูร้อนอยู่สักหน่อย แต่ฤดูหนาว ก็หนาวไม่แพ้ใครเลยทีเดียว อีกทั้งแต่ละจังหวัดยังอบอวลไปด้วยมิตรภาพดีๆ ประเพณีแจ่มๆที่อนุรักษ์ไว้ให้ดูกันด้วยล่ะ ถนนหนทางก็แสนจะสบาย ใครที่หลงกลิ่นอายประเพณี และยังอยากเห็นวัฒนธรรมใหม่ๆ ภายใต้บรรยากาศดีๆ ก็เชิญไปสัมผัสกันได้วันนี้
การเดินทางสู่ภาคอีสาน ก็ออกจาก กรุงเทพมหานครไปไม่นาน เพียง 3 ชั่วโมง ถ้าออกไปทางสระบุรี เราก็เลี้ยงขวาเข้าถนนมิตรภาพ ก็เริ่มเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา แล้วขับไปเรื่อยๆ ก็สู่ดินแดนที่ราบสูงแล้วล่ะคะ
เพียงไม่ใกล้ ไม่ไกลมาก จากกรุงเทพมหานครที่เป็นประตูสู่ภาคอีสาน ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศใหม่ๆแน่นอน ลองดูกันนะ ลองไปเยี่ยมภาคอีสานกันบ้าง แล้วจะได้ประสบการณ์ใหม่ที่ประทับใจไม่รู้ลืม

แนะนำที่เที่ยวเขาใหญ่

แนะนำที่เที่ยวเขาใหญ่
ผ่านพ้นเดือนเมษายน ที่เขาว่ากันว่า ร้อนที่สุดของประเทศไทย แล้ว ดีใจใช่ไหมล่ะ ที่อากาศจะเริ่มเย็นขึ้นบ้างแล้ว ต้นไม้ ใบหญ้าที่เคยเหี่ยวเฉา ก็จะได้รับน้ำเย็นชุ่มฉ่ำกัน กับฤดูกาลแห่งฝน
แล้วต้นฤดูฝนแบบนี้ เราหาโอกาสไปเที่ยวกันดีกว่า เพื่อชาร์ทแบตเตอรี่ให้เต็มปอด หลังจากหลบไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า เพื่อนคลายร้อนโดยการรับแอร์เสียนาน กับสถานที่ที่เป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อให้พลังอากาศบริสุทธิ์จงอยู่ที่เรา ที่ “เขาใหญ่”
Click to view full size image
“เขาใหญ่”เป็นภูเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่จังหวัด นครราชสีมา เป็นภูเขาลูกใหญ่ ที่เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติที่ดีไว้มากมาย และที่สำคัญ อากาศดีมาก เป็นอุทยานแห่งชาติที่น่าไปเที่ยว ที่มีที่พักอำนวยความสะดวกมากมาย จะกางเต้นท์ หรือพักรีสอร์ท สุดหรู ก็มีไว้คอยบริการตามไลฟ์สไตล์แต่ละคน
จะไปเป็นหมู่คณะ หรือไปกันเองไม่กี่คน ก็มีทุกอย่างไว้คอยบริการ และกิจกรรมต่างๆที่เขาใหญ่นั้น ก็มีทั้งกลางวันและช่วงกลางคืน ซึ่งแนะนำเลยว่า ไม่ควรพลาดสักกิจกรรม เริ่มจากการเดินป่า เพื่อสำรวจทรัพยากร จะดูนก หรือนั่งจิบกาแฟชิวๆ ในบรรยากาศ อ้อมกอดของขุนเขา สลับกับการเดินเล่น ขี่จักรยานพักผ่อน ก็ได้ แล้วช่วงกลางคืน ไปส่องสัตว์ ก็จะพบสัตว์หายากที่น่าสนใจ ก็สนุกไปอีกแบบ
Click to view full size image
หลากหลายกิจกรรมแบบนี้ แล้วก็ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร “เขาใหญ่” จึงเป็นสถานที่อันดับต้นๆที่ไม่ควรพลาด ที่จะไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัว กับคนที่รัก ลองหลบหนีความวุ่นวายไปพักที่ “เขาใหญ่” ดูสักครั้ง

มาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดในจังหวัดนครพนม

มาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดในจังหวัดนครพนม
วันจันทร์   คือ พระธาตุเรณู     อำเภอเรณูนคร
วันอังคาร  คือ  พระธาตุศรีคูณ  อำเภอนาแก
วันพุธ คือ  พระธาตุมหาชัย  อ.ปลาปาก
วันพฤหัสบดี  คือ พระธาตุประสิทธิ์  อ.นาหว้า
วันศุกร์   คือ  พระธาตุท่าอุเทน  อ.ท่าอุเทน
วันเสาร์ คือ  พระธาตุนคร  อ.เมือง
Click to view full size image
วันอาทิตย์  คือ  พระธาตุพนม   อ.ธาตุพนม
เกิดวันอาทิตย์ และ เกิดปีวอก

ไปเลย ไปเที่ยวเชียงคาน ไปเลยยย…

เที่ยว เชียงคาน….
เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่ง ที่พลาดไม่ได้ สำหรับใครที่หลงรักในมนต์เสน่ห์แม่น้ำโขง แม่น้ำสายยาวที่หล่อเลี้ยงคนหลายประเทศในโลก กับบรรยากาศที่แสนชิว เงียบสงบ ที่เมืองเชียงคาน จังหวัดเลย
postcard-esan-สะบายดีc
เชียงคาน เมืองเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครได้รู้จัก มาวันนี้ กลายเป็นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตไปเสียแล้ว ด้วยเสน่ห์อันเงียบสงบ น่าอยู่ บรรยากาศไม่เร่งรีบ ริมสองฝั่งโขง ให้หลายคนที่อยากสูดอากาศให้ชุ่มปอดต้องเดินทางมา
หรือใคร อยากสัมผัสวิถีชีวิต เรียนรู้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านริมน้ำ ชาวไทยและชาวลาว ก็แนะนำว่ามาที่นี่ คุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรม จะมาเป็นคู่ มาเป็นหมู่คณะ หรือจะมาเดี่ยว ก็เพลิดเพลินใจได้ตามใจฉัน แต่บอกไว้ก่อนจะคิดถึงแสงสีสัน ที่หาได้ง่ายในกรุงเทพ คงจะไม่มี เพราะร้านจะปิดเร็วหน่อย เพื่อรอรับอรุณรุ่งเช้า ตามสไตล์เจ้าของถิ่นจะหาง่ายกว่ามาก
ใครจะไปเที่ยวเชียงคาน แนะนำให้ไป สองคืน สามวัน จะดีที่สุด หรือจะหนึ่งคืน สองวันก็ได้ แนะนำให้ไปนอนในตัวเชียงคาน ก่อนเดินทางเที่ยวให้รอบเมือง จะมีหาดทรายแม่น้ำโขงให้เพลิดเพลิน หรือไปชมพูทอก ทะเลหมอก แล้วขับรถชมวิวสองข้างทางก็จะดีไม่น้อย แล้วอย่าลืมเดินตลาดเช้า และกินอาหารพื้นเมืองอย่าง ข้าวเปียก ปลาท่องโก๋ ในตลาดเช้า ที่ขายดีมาก ใครที่ตื่นสายก็ต้องอด ก็ห้ามพลาด
ลองดูสักครั้ง กับเมืองเล็กๆแห่งนี้ จะจูงมือเพื่อนที่รู้ใจ หรือเดินทางไปคนเดียว หน้าหนาวนี้ ให้เชียงคาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเบอร์แรกๆของคุณ !

“ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตภูกระดึง” เที่ยวภูกระดึง จ.เลย

เที่ยวภูกระดึง
ฟิตกำลังขา ออกกำลังกาย แล้วไปพิชิตภูกระดึงกันค่า…..
ว่ากันว่า ภูกระดึง ขึ้นยากมา จึงต้องให้ฉายาว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตภูกระดึง” สงสัยกันไหมค่ะ ว่ายากขนาดไหน บอกได้คำเดียวว่า ต้องลองไปพิสูจน์กันดู ว่ายากแค่ไหน
postcard-esan-ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตภูกระดึง ff
ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในจังหวัดเลย ต้นไม่ส่วนใหญ่เป็นป่าสน และเป็นป่าอนุรักษ์อีกด้วย และเปิด-ปิดป่าเป็นเวลา เพื่อให้ต้นไม้ได้เติบโต โดยไม่มีผู้บุกรุก จึงเหมาะอย่างมาก หากจะไปท่องเที่ยวแบบเดินป่า จะทำให้เห็นสิ่งต่างๆจากป่ามากมาย
แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะยาก อย่างคำร่ำลือ ต้องไปพิสูจน์เอง ว่าไม่ยากอย่างที่คิด และคุ้มค่ามากสำหรับทริปนี้ แต่ให้ฟิตร่างกายเพื่อความปวดขาสักเล็กน้อย เพราะกระซิบเบาๆว่า ไม่ไหวเลย หากไม่ออกกำลังกายก่อนขึ้นสักนิด แต่ขึ้นไปแล้วหายเหนื่อยชัวร์
การเตรียมอุปกรณ์สำหรับท่องเที่ยวภูกระดึง ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าร่างกาย เพราะเรื่องที่พัก อาหารนั้น ภูกระดึงมีรองรับไว้หมดแล้ว เพียงจำกัดนักท่องเที่ยวขึ้นในแต่ละวันเท่านั้นเอง สามารถขึ้นได้ตามทางเดินที่เจ้าหน้าที่จัดให้ แม้ไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง แล้วระหว่างสองข้างทางนั้น ก็มีบริการ อาหาร น้ำ ผลไม้ ไว้คอยบริการตลอด หรือจะนั่งพักเราก็มี สบายๆแน่นอนที่ภูกระดึง ค่อยๆเดินไม่ต้องรีบ แต่ช่วยกันรักษาความสะอาด จะดีที่สุด
จะเดิน 4 ชั่วโมง 8 ชั่วโมงก็ไม่ว่ากัน แล้วคุณจะพบกับธรรมชาติที่สุดแสนจะประทับใจ บอกนิดหนึ่งว่า ถ้าตื่นตอนเช้ามาเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และเดินไปชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ สวยไม่แพ้ที่ใดๆเลย …

ตื่นตาตื่นใจไปกับทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

เที่ยวทุ่งดอกกระเจียว
ใกล้ฤดูฝนมาทุกทีแล้ว แล้วบรรยากาศหลังฝนตกเช่นนี้ กับบรรยากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาวเช่นนี้ ต้องที่นี่ “ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ”
postcard-esan-Surin copys (8)
ให้เพลิดเพลินใจกับดอกกระเจียวเต็มท้องทุ่ง สีขาว สีชมพู กับบรรยากาศทุ่งหญ้าหลังได้รับน้ำฝน ได้รับบรรยากาศสดชื่น จากการได้รับน้ำใหม่ๆ สร้างความคึกคัก เพิ่มพลังเต็มที่กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาชมที่นี้ ด้วยดอกกระเจียวสีสันสดใสเหล่านี้ จะทำให้คุณพักเรื่องงาน ออกเดินทางเพื่อพบธรรมชาติที่แท้จริง
แน่นอนว่า ทุ่งดอกกระเจียว ไม่ได้มีเพียงดอกกระเจียว ให้ดูเท่านั้น ยังมีเส้นทางเดินธรรมชาติ ให้เดินศึกษาเส้นทางกันอย่างไม่ยากนัก โดยไม่ต้องขึ้นเขาสูงอย่างภาคเหนือ แต่บรรยากาศเย็นสร้างให้เดินเส้นทางธรรมชาติอย่างไม่เหนื่อย และระยะทางไม่กี่กิโลเมตร ทำให้เราสามารถเดินทางผ่านหินแปลกรูปร่างต่างๆ สลับกับเส้นทางเดินธรรมชาติ และดอกกระเจียว เป็นการเพลิดเพลินใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ทั้งนี้ หากไปถึง ทุ่งดอกกระเจียว ต้องไม่พลาดแน่นอนกับ น้ำตก จากอุทยานแห่งชาติใกล้เคียง หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ทางอุทยานจัดขึ้น อาทิ การปั่นจักรยาน หรือนั่งรถชมบรรยากาศ ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและหลากลายพอสมควร เพื่อเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้กันทั้งครอบครัว
โดย “ทุ่งดอกกระเจียว”จะบานและพร้อมอวดโฉม ตั้งแต่เดือน มิถุนายน เป็นต้นไป จนถึงปลายเดือนสิงหาคม โดยจะมีดอกกระเจียวบานสลับกันไป ให้ได้ดูชมภายในสองสามเดือนนี้ แน่นอนว่าหลังฝน ดอกกระเจียวจะบาน อวดช่อ ให้ได้ชมกัน
บรรยากาศหมอกอ่อนๆ ดอกกระเจียวสีสวย กับหญ้าคาสีเขียว สวยราวกับภาพวาดเช่นนี้ ต้องไปชมให้ได้ กับ “ทุงดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ”

ที่เที่ยวสุดฮอต อ.วังน้ำเขียว เมืองโคราช

เที่ยววังน้ำเขียว
สูดอากาศบริสุทธิ์กันไหม แนะนำเลย เพียงไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร แล้วท่านจะมหัศจรรย์ใจกับแหล่งโอโซนชั้นดีของประเทศ ที่ “วังน้ำเขียว”
postcard-esan-Wang Nam Khiao1
ว่ากันว่า เป็นถึงสวิตเซอร์แลนด์ ของดินแดนที่ราบสูง ภาคอีสานกันเลยนะ ไม่ต่างอะไรกับบรรยากาศที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว ด้วยบรรยากาศอันสงบเงียบ และอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี เฝ้ารอใครที่ต้องการความเงียบสงบและต้องการผักผ่อนสไตล์สบายๆต้องไม่พลาด ไปพักผ่อนกันที่นี่
“วังน้ำเขียว” อยู่ที่ จ.นครราชสีมา เป็นจุดหมายของนักเดินทางที่ไม่ควรพลาด เพราะท่านจะได้พบกับความเขียวชะอุ่มทั้งปี ของจากต้นไม้ใบหญ้า จากสองข้างทางของจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะที่อำเภอวังน้ำเขียว และแหล่งปลูกพืชพันธ์ ผักใบเขียวทั้งในและจากต่างประเทศ ก็มีให้เห็นที่บริเวณตรงนี้ หรือจะเป็นแหล่งปลูกเห็ดที่ใหญ่ที่สุด  ก็ไม่ควรพลาดที่ไปเที่ยวชม
ไม่ต้องกลัวว่า “วังน้ำเขียว” จะเป็น ดินแดนที่ห่างไกลความเจริญ แต่ “วังน้ำเขียว”เป็น สถานที่พักผ่อน  ที่ทุกคนต้องไปให้แน่นอน เพราะมีรีสอร์ทที่อำนวยความสะดวก ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น อยู่ในสถานที่ธรรมชาติให้เลือกมากมาย ตั้งแต่แบบธรรมดา หรือ สุดหรูก็มีแน่นอน แต่ยังคงเอาไว้ซึ่งธรรมชาติล้วนๆแน่นอน
ถ้าคิดอยากจะพัก ให้เลือก “วังน้ำเขียว”เอาไว้ พร้อมแล้วเดินทางได้เลย ไปได้ตลอดปี ด้วยความเย็นที่มีอยู่ในแหล่งโอโซนที่ดีที่สุดในเมืองไทย หากอยากพักไปชาร์จแบตเตอรี่ เก็บอากาศบริสุทธิ์ไปใช้ ให้มาที่นี่ “วังน้ำเขียว” แล้วพลังงานจากธรรมชาติจะส่งถึงคุณ ให้คุณกลับคืนมา อย่างแน่นอน

ไปไหว้พระใหญ่ พระมงคลมิ่งเมือง พระคู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญ




มีโอกาศได้ไปเยือนเยี่ยมถิ่น จังหวัดอำนาจเจริญ ไม่พลาดที่จะไปไหว้พระที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองอำนาจเจิญ นั่นก็คือ “พระมงคลมิ่งเมือง” หรือ บางคนอาจจะเรียกว่า “พระใหญ่”
พระมงคลมิ่งเมือง ตั้งอยู่ที่เขาดานพระบาท ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญไปประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณ ที่ตั้งนี้จะเป็น “พุทธอุทยาน” ด้วยมีสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้ ป่าไม้ ไม้เบญจพรรณ พืชพันธุ์ นานาชนิด
พระมงคลมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ขนาดของหน้าตักท่าน กว้าง 11 เมตร สูง 20 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พระมงคลมิ่งเมือง สร้างขึ้นปี พศ 2508 ประดับตกแต่งที่สวยงามด้วย กระเบื้องโมเสกที่มีสีทอง อร่าม

บริเวณพุทธอุทยาน พระมงคลมิ่งเมือง เชื่อกันว่าเป็น ศาสนสถาน มากว่า 2,000 ปีแล้ว เนื่องด้วยมีขุดพบค้นเจอ พระพุทธรูปหินทรายสีแดง จำนวน 2 องค์ ศิลปะทวาราวดี อายุจะอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10-12 ซึ่งชาวบ้านจะเรียกชื่อว่า “พระขี้ร้าย” หรือ “พระละฮาย” หมายความว่า ไม่สวย นอกจากนั้นยังมี เสมาหินทราย และ เครื่องปั้นดินเผา จำนวนมาก
ใครที่มีโอกาสได้ไปอำนาจเริญ ก็อย่าลืมไป ไปไหว้พระมงคลมิ่งเมือง พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำนาจเจริญ ….

ไปเที่ยวมาเล่า ไปไหว้พระใหญ่ พระมงคลมิ่งเมือง พระคู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญ

ไปไหว้พระใหญ่ พระมงคลมิ่งเมือง พระคู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญ

มีโอกาศได้ไปเยือนเยี่ยมถิ่น จังหวัดอำนาจเจริญ ไม่พลาดที่จะไปไหว้พระที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองอำนาจเจิญ นั่นก็คือ “พระมงคลมิ่งเมือง” หรือ บางคนอาจจะเรียกว่า “พระใหญ่”
พระมงคลมิ่งเมือง ตั้งอยู่ที่เขาดานพระบาท ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญไปประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณ ที่ตั้งนี้จะเป็น “พุทธอุทยาน” ด้วยมีสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้ ป่าไม้ ไม้เบญจพรรณ พืชพันธุ์ นานาชนิด
พระมงคลมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ขนาดของหน้าตักท่าน กว้าง 11 เมตร สูง 20 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พระมงคลมิ่งเมือง สร้างขึ้นปี พศ 2508 ประดับตกแต่งที่สวยงามด้วย กระเบื้องโมเสกที่มีสีทอง อร่าม

บริเวณพุทธอุทยาน พระมงคลมิ่งเมือง เชื่อกันว่าเป็น ศาสนสถาน มากว่า 2,000 ปีแล้ว เนื่องด้วยมีขุดพบค้นเจอ พระพุทธรูปหินทรายสีแดง จำนวน 2 องค์ ศิลปะทวาราวดี อายุจะอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10-12 ซึ่งชาวบ้านจะเรียกชื่อว่า “พระขี้ร้าย” หรือ “พระละฮาย” หมายความว่า ไม่สวย นอกจากนั้นยังมี เสมาหินทราย และ เครื่องปั้นดินเผา จำนวนมาก
ใครที่มีโอกาสได้ไปอำนาจเริญ ก็อย่าลืมไป ไปไหว้พระมงคลมิ่งเมือง พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำนาจเจริญ ….

เรื่อง และ ภาพ โดย http://esanphoto.com
อ้างอิง ททท

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการ ที่เปิดกว้างให้ผู้ที่ สนใจได้เดินทางเข้ามาศึกษาข้อมูลของไดโนเสาร์ ที่ถูกค้นพบที่ประเทศไทย และยังรวมไปถึงข้อมูลทางธรณีวิทยา แร่ธาติต่างๆ ซากดึกดำบรรพ์อีกหลายชนิด ที่ถูกค้นพบ และกำลังค้นพบกันอยู่ในเวลานี้ รวมไปถึงมีการทำสื่อมัลติมีเดีย เป็นเรื่องราวต่างๆ ที่ทำให้น้องๆหนูได้เรียนรู็และเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น ในการศึกษาก็ เกิดความสนุกไม่รู้จักเบื่อหน่าย ยามที่เดินทางมาที่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง แห่งนี้ และที่สำคัญพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สามารถเข้าชมได้ฟรีอีกด้วย
esanphoto.com

สำหรับหลายท่านที่ยังไม่รู้ว่าในเมืองไทยได้ มีการค้นพบซากไดโนเสาร์จำนวน มากมาย และได้จัดสร้างเป็น พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ มากมายแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ต้องการทราบถึงประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของยุคไดโนเสาร์ และได้มีโอกาสเห็นโครงกระดูก หรือขนาดของตัวไดโนเสาร์ ได้แบบใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด และยังเป็นแหล่งค้นหว้าหรือการทำวิจัยต่างๆจากนักวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งนักธรณีวิทยาและอีกหลายฝ่ายที่เข้ามาทำการศึ้ษาค้นหว้าหา ข้อมูล
กันอย่างจริงจังและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทางจังหวัดขอนแก่นอีกด้วย

ประเพณีผีตาโขน เทศกาลผีตาโขน

ประเพณีผีตาโขน เป็นประเพณีที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว เป็นการนำเอาที่นึ่งข้าวของชาวบ้าน มาช่วยกันวาดรูปเป็นหน้าตา ต่างๆตามชอบ ทำเป็นหน้ากาก สวมแล้วแต่งตัว ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสวยงาม พร้อมทั้งเดินขบวนแห่ ร่ายรำ เต้นเดินไปเข้าวัด ทำบุญ ฟังเทศน์ธรรมะ กันในวันงาน เป็นประจำทุกๆปี ซึ่งหากมองให้ชัดก็นับว่าเป็นความคิดอันชาญฉลาดของ
esanphoto.com
บรรพบุรุษเรา ที่ได้ทำกุศโลบายนี้ขึ้น เพื่อให้คนเข้าวัดทำบุญ ฟังธรรมะกัน ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้ก็ยัง คงสืบทอดต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และในปัจจุบันก็สร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศไทยของเรา ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาชื่นชม ร่วมงานทำบุญกับพี่น้องชาวไทยอีกด้วย

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง


ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานทางศาสนาพราหมณ์ ที่สร้างด้าวหินทรายสีชมพู และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ อีกแห่งหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่มักเดินทางไปศึกษา และมักไปรอคอยปรากฎการณ์ทาง ธรรมชาติ ที่พระอาทิตย์ตกตรงกับตำแหน่ง ของช่องประตูทั้ง 15 ช่อง ซึ่งในแต่ละปีจะเกิดขึ้น

เพียง 4 ครั้งเท่านั้น หากท่านที่พลาดโอกาสแบบนี้ไปก็คงต้องรอวันเวลาอื่นๆ ซึ่งการคาดคะเนในแต่ละปี ก็อาจไม่ตรงวันกันได้ ดังนั้นทางที่ดีท่านไม่ควรพลาด ควรตรวจสอบวันให้แน่ชัด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ทราบวันที่จะเกิดปรากฏการณ์ทาง
ธรรมชาตินี้ก็จะเดินทางไปชมปรากฎการณ์นี้ที่ ปราสาทหินพนมรุ้ง กันเต็มไปหมด

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม

พระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีสถาปัตยกรรมและศิลปะที่สวยงามขอตัวพระธาตุ สร้างแบบศิลปะขอม จุดเด่นของที่นี่คือ มีฉัตรทองคำอยู่บนยอดของพระธาตุที่มีความสวยงามมาก และในแต่ละปีก็มีพี่น้องทั้งชาวไทย และต่างประเทศเดินทางมากราบสักการะ พระธาตุพนมแห่งนี้เป็นจำนวนมากและมีความเชื่อกันว่าหากใครได้เดินทางมาทำบุญ

ไหว้พระธาตุแห่งนี้ ครบ 7 ครั้ง ก็จะสิริมงคลและมีบุญพาวาสนาโชคดีไปตลอด และท่านที่ได้เดินทางมากราบไหว้พระธาตุพนม ก็อาจแวะมาในช่วงที่มีเทศกาลการแข่งเรือไฟ ที่ริมแม่น้ำโขง ก็จะได้ดูประเพณีไทยๆ อีกอย่างหนึ่งได้ด้วย

พระธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม

พระธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดอีกด้วย ในการเดินทางไปท่องเที่ยว ก็ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เดินทางสะดวก ทำให้มีผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยว


กันอย่างมาก และภายในพระธาตุเรณูยังมีพระพุทธรูปทองคำและเงิน ที่เป็นของมีค่าและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองประจำที่แห่งนี้ ใครผ่านไปมาก็ต้องมาสักการะกราบไหว้กันทุกคน และในเรื่องของสถาปัตยกรรมของตัวพระธาตุ ก็มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ใครผ่านไปมาเห็นแล้วต้องตกตะลึงกับความงามของพระธาตุเรณู แห่งนี้

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม

พระธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก  จังหวัดนครพนม เป็นที่รู้จักของ ผู้คนทั่วไป รวมไปถึงชาวอีสานทุกคนต้องรู้จัก
พระธาตุมหาชัย กันอย่างแน่นอน พระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำวัน
ของท่านที่เกิดวันพุธ


และที่นี้ก็มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง นั่นก็คือ หลวงปู่คำพันธ์
ที่เป็นที่เคารพของคนมากมาย และมีคนจำนวนมากที่เลื่อมใสศรัทธาและ
บูชาหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ทางสายวิปัสสนา ในเรื่องของสถาปัตยกรรมของพระธาตุที่นี้ ก็จะมีฐานเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่มี
ความแตกต่างจากรูปทรงของพระธาตุอื่นๆ ทำให้เป็นจุดเด่นและมีความสวยงาม ทางด้านสถาปัตยกรรมอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน


ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุศรีคูณ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม

พระธาตุศรีคูณ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม สถาปัตยกรรมของพระธาตุนี้มี
การออกแบบคล้ายกับพระธาตุพนม และจากการกล่าวขานกันมาอย่างยาวนาน กล่าวกันว่า พระธาตุที่นี้เป็นพระธาตุของคนที่เกิดวันอังคาร มีพระปางไสยาสน์ หรือที่เรียกกันว่าพระนอนให้กราบไหว้กัน โดยตามประวัติที่กล่าวว่า พระธาตุศรีคุณนี้
postcard-esan-Surin copys (12)

ผู้ค้นพบเป็นชาวบ้านคนลาวที่อพยพมาอยู่อาศัยใน
บริเวณนี้ และก็สร้างถวายกันสิบต่อมา ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ
ชาวต่างประเทศเดินทางมากราบไหว้ขอพรกันมากมาย เพราะความศักดิ์สิทธิ และความมีชื่อเสียงของพระธาตุนี้ได้แพร่ขยายไปทั่วสารทิศ จึงไม่น่าแปลกที่จะมีผู้คนมากราบไหว้ในแต่ละวันๆจำนวนมาก

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม

พระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ตามประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า เป็นการค้นพบของชาวเผ่าญ้อ มาพบเจอพระธาตุแห่งนี้และได้บูรณะเรื่อยมา
หลายยุคหลายสมัย จนถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมโครงสร้างมีความใกล้เคียงกับ

พระธาตุพนม และภายในวัดยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้ศึกษาอีกด้วย นอกจากเดินทางมาทำบุญไหว้พระ โดยมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน รวบรวม เครื่องดนตรีไทยสมัยก่อน และสิ่งของโบราณอื่นๆอีกมากมาย และภายในพระธาตุยังมีส่วนที่เป็น ศูนย์ศิลปหัตถกรรม ที่เปิดทำการสอนและส่งเสริม
ให้ชาวบ้านเดินทางมาเรียนรู้ ให้สามารถนำไปประกอบ
อาชีพ เสริมสร้างรายได้ในพื้นที่อีกด้วย

 

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

พระธาตุนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม  แห่งนี้ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ภายในพระธาตุนคร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอีกแห้งของชาวนครพนม มีพระพุทธรูปทองคำประดิษฐานอยู่ และมีประวัติศาสตร์ของ


ตัวพระธาตุ มาอย่่างยาวนาน รูปทรงของตัวฐานพระธาตุมีความสวยงาม มีการปิดทองลงรัก โดยรอบของพระธาตุ และเชื่อกันว่าพระธาตุแห่งนี้ เป็นพระธาตุประจำวันเสาร์ เหมาะแก่ท่านที่มีวันเกิดเป็นวันเสาร์ ควรที่จะเดินทางมานมัสการกราบไหว้ เสริมบารมี เสริมสิริมงคลให้แก่ตัวเอง มีความเจริญรุ่งเรือง

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

ท่องเที่ยว ไหว้พระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

พระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีการสร้างตัวพระธาตุที่ถอดแบบสถาปัตยกรรม มาจาก พระธาตุพนมเดิม เลยทีเดียว เพียงแต่มีการย่อส่วนให้เล็กลงเท่านั้น แต่ในเรื่องของความสูงที่ตัวพระธาตุ แห่งนี้จะมีความสูงกว่า


และที่ตัวกำแพงพระธาตุมีลวดลาย ที่แสดงเรื่องราวของผู้คน ในท่าทางกิริยา ต่างๆ ที่ยังไม่มีหลักฐานและการระบุแน่ชัดว่าเป็นการสื่อ ถึงเรื่องราวใด และภายในพระธาตุ มีการบรรจุพระพุทธสารีริกธาตุที่เชิญมาจาก ประเทศพม่า และในปัจจุบันนี้ พระธาตุพนมท่าอุเทนแห่งนี้ ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานของชาติอีกด้วย

Friday, October 25, 2013

ไปเที่ยวมาเล่า มาเบิ่ง มาเที่ยว เส้นทางจากอุบลฯ – ถึงยโสธร บนถนนแจ้งสนิทเด้อ

มาเบิ่ง มาเที่ยว ถนนแจ้งสนิท จากอุบลฯ – ถึงยโสธร เด้อ
วันนี้มีความรู้สึกว่าอยากจะเที่ยวแถวๆบ้านตัวเอง  ก็เลยรีบไปตรวจเช็ครถตัวเองตั้งแต่เช้า  เสร็จแล้วก็ประมาณ เจ็ดโมงแล้ว  ก็ขับรถออกมา ก็นึกกันสดๆเลยน่ะครับ  เริ่มจากชานเมืองอุบลฯ ก็คิดว่าเริ่มจาก บ้านปะอาว เป็นที่แรกดีกว่า  พอคิดแบบนั้นก็ซิ่งรถไปที่บ้านปะอาว
  บ้านปะอาว  ห่างจากจากตัวจังหวัดอุบลฯ ประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 23 พอถึงบ้านหนองขอน จะมีป้ายบอก ให้เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 3 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านปะอาว  ตามหลักฐานบ้านปะอาวมีอายุกว่า 200ปีอพยพมาจากเวียงจันทร์  หนองบัวลำภู ตามประวัติศาสตร์เมืองอุบลฯ มีความน่าสนใจคือ  การทำเครื่องทองเหลืองโดยใช้วิธีการทำแบบดั่งเดิม  และ การทอผ้าไหม ที่สวยงาม จากที่ได้ชมความสวยงามของงานทองเหลืองของบ้านปะอาวแล้ว  ผมก็ซิ่งรถต่อไปอีกประมาณไม่น่าจะเกิน  10 กิโลเมตร ได้  ข้ามสะพานลำเซบาย แล้วก็เตรียมเลี้ยวซ้ายไปที่..
Click to view full size image
บ้านชีทวน  ก็อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเขื่องใน  จะว่าไปก็เป็นชายแดนระหว่างอำเภอเมืองกับอำเภอเขื่องในน่ะครับ เข้าไปประมาณ  5-6 กิโลเมตร ก็จะถึงดินแดนเก่าแก่ของขอมเรืองอำนาจ  สมัยเจนละ  มีหลักฐานต่างๆมากมายเลยน่ะในบ้านชีทวน  เมื่อก่อนก็ไม่ทราบว่ามีประวัติมีหลักฐานอะไรน่าสนใจ  พอได้เข้ามาสัมผัสถึงได้รู้ว่ามี ทั้งวัดที่ศักสิทธิ์ พระพุทธรูปที่ศักสิทธิ์  มีพระธาตุเก่าแก่   มีสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่   เช่น  ธรรมมาสน์สิงห์เทินบุษบก  สัตตภัณฑ์เชิงเทียน  และเรือโบราณ  พอมองดูนาฬิกา  ก็พึ่งจะ 9โมงกว่า ก็เลยเดินถ่ายรูปไปเรื่อยน่ะครับ  บ้านชีทวนก็จะมีวัดทั้ง  หมด 3 วัด ด้วยกันน่ะครับ
วัดแรก วัดทุ่งศรีวิไล ก็จะมี พระพุทธรูปเก่าแก่  พระพุทธวิเศษ
วัดที่สอง  วัดธาตุสวนตาล  ก็จะมีพระธาตุสวนตาล เรือโบราณ  และ สัตตภัณฑ์เชิงเทียน
วัดที่สาม  วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์  มี ธรรมมาสน์สิงห์เทินบุษบก สวยมาก
ผ่านไปแป้ปเดียวจะสิบโมงแล้ว   ก็เลยซิ่งรถต่อครับมาตามถนนแจ้งสนิท  ทางหลวงหมายเลข 23 นี่แหละครับ ขับต่อมาอีกประมาณ สิบกว่ากิโลเมตร ผ่านมหาลัยราชภัฎอุบลฯ วิทยาเขต ยางน้อย ซึ่งยังร้างๆอยู่ตอนนี้ยังไม่มีนักศึกษา  พอสักก็มองไปเจอ
วัดบ้านยางน้อย  ซึ่งเตะตาคือ ศาสนาสถานศิลปะน่าจะสมัยรัตนโกสินทร์  แตกต่างจากวัดอื่นๆ เพราะมี ศาสนาสถานที่ดูมีรายละเอียด ก็เลยแวะไปดู  กราบไหว้  พระพุทธรูปพระพุทธโลกนาถสุโขทัย  พระพุทธมหามงคล สักพักก็ซิ่งรถต่อ  ไปอีกกิโลสองกิโลเมตร ก็มองเห็น  พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านกลางทุ่งนา  พอขับรถไปถึง
ใกล้ๆ   ก็อดใจไม่ได้ก็ต้องแวะ
พระพุทธสถานครองราชย์ 60 ปี     ก็จอดรถเดินลงไปชมตามอัธยาศัย  พอสักพักก็ออกเดินทางต่อ  ซิ่งรถไปประมาณเกือบๆ  20 กิโลเมตร  ก็ไปถึง
Click to view full size image
สิมโนนบ้านเก่า  บ้านกอก  เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก็จะเห็นสภาพสิมเก่าแห่งนี้  ที่มีใบเสมา มีธาตุอิฐหัก น่าจะสมัยขอม หรือ ทวารวดี   และมีพระพุทธรูปเก่าแก่  ชาวบ้านกอกจะเรียก พระพุทธรูปว่า   พระเจ้าใหญ่สิมโนนบ้านเก่า  ซึ่งมีความศักสิทธิ์มาก  ใครจะไปที่ไหน ทำอะไร  ก็จะมากราบไหว้ ขอพรท่าน  ให้ปกปักรักษา  ตั้งแต่รุ่นต่อรุ่น  มาจนถึงปัจจุบัน  ก็ไปกราบไหว้ขอพร  ก็รีบไปต่อกันเลยครับ
Click to view full size image
วัดป่าบึงเขาหลวง  สาขาที่ 3 ของวัดหนองป่าพง  ห่างจากสิมโนนบ้านเก่าบ้านกอก ไม่ถึง 10 กิโลเมตรครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไป  4 กิโลเมตร วัดป่าบึงเขาหลวง เป็นวัดเก่าแก่ สมัยทราวดีหรือปลายกรุงศรีอยุธยา สถาปัตยกรรมในวัดที่ยังคงเหลืออยู่และมีค่าแก่การเคารพบูชา คือ เจดีย์ ก่อสร้างสมัยทวาราวดี, พระพุทธรูป
ปางมารวิชัยในโบสถ์ ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ เจดีย์กลางน้ำที่บรรจุอัฐิหลวงพ่อจันทร์ อินทวีโร ณ ทางทิศใต้ของบ้านกลางใหญ่  มีบึงล้อมรอบเป็นเขตวัด บริเวณวัดเป็นเนินดินโบราณ พบโบราณวัตถุ เช่น กระดูก ขวานมีบ้อง (ใบขวาน) พระบุเงิน และเศษภาชนะดินเผา ภายในวิหารมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่
หน้าตักกว้าง 3 เมตร นอกจากนี้ยังมีซากโบราณสถานหลงเหลืออยู่ ประกอบด้วยพระธาตุ (เจดีย์) 2 องค์เป็นเจดีย์
ทรงอูบมุง จัดในกลุ่มพระธาตุอีสานที่มีฐานสูง มีอิทธิพลมาจาก พระธาตุพนม เป็นป่าไม้ร่มรื่น มีสระน้ำใหญ่บรรยากาศเย็นสบายปลอดโปร่ง  ชมเสร็จหิวแล้วครับ ซิ่งกันต่อเลยครับ
ไก่ย่าง บ้านดงแคนใหญ่  หรือ  ไก่ย่างบ้านแคน   ก็มีมากมายเรียงรายตามท้องถนนแจ้งสนิทน่ะครับ  ก็เลือกได้ตามใจชอบ  เพราะด้วยรสชาติ ก็จะคล้ายๆกันทุกร้าน   พออิ่มแหละก็ออกเดินทางเที่ยวต่อน่ะครับ  ตามรายทางแจ้งนิท  โปรแกรมต่อไปก็จะไปกราบไหว้
Click to view full size image
พระธาตุกู่จาน      ตั้งอยู่ที่บ้านงิ้ว ตำบลกู่จาน ห่างจากตัวอำเภอ 12กิโลเมตร กู่จานเป็นเจดีย์เก่าเจดีย์หนึ่งในจังหวัด มีลักษณะคล้าย ๆ กับพระธาตุพนม ตามตำนานเล่าว่ากู่จานมีมาตั้งแต่ครั้งสร้างพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม การเดินทาง ตามทางหลวงหมายเลข 23(ยโสธร-อุบลราชธานี) เลี้ยวซ้าย 7 กิโลเมตร พอเที่ยวเสร็จแล้ว ก็ซิ่งรถต่อไปที่
แหล่งโบราณสถานบ้านสงเปือย
อยู่ห่างจากตัวเมืองยโสธร 25 กิโลเมตร ตามเส้นทางยโสธร-คำเขื่อนแก้ว-อุบลราชธานี (ทางหลวงหมายเลข 23) จะมีทางแยกขวาเข้าไปอีกราว 6.7 กิโลเมตร สิ่งสำคัญและปูชนียสถานที่น่าสนใจมีดังนี้
พระพุทธรูปใหญ่ เป็นพระประธานในอุโบสถวัดสงเปือย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 8 เมตร เป็นพระพุทธรูปปั้นด้วยอิฐ ปูน มีอายุไม่น้อยกว่า 200 ปี หลังจากเที่ยวจนเมื่อย  มองดูนาฬิกาก็บ่ายสามโมงกว่าแล้ว  สถานีต่อไปคือ
Click to view full size image
พระธาตุก่องข้าวน้อย
ก็อยู่ห่างจากบ้านสงเปือยประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ก็ขับรถไม่นานครับ  สักพักก็ถึงแล้ว   สำหรับพระธาตุ ก็
ตั้งอยู่ในทุ่งนา ตำบลตาดทอง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 23 (ยโสธร-อุบลราชธานี) กิโลเมตรที่ 194เลี้ยวซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร  พระธาตุก่องข้าวน้อยมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ซึ่งผิดไปจากปูชนียสถานแห่งอื่นๆ ที่มักเกี่ยวพันกับเรื่องพุทธศาสนา แต่ประวัติความเป็นมาของพระธาตุก่องข้าวน้อยกลับเป็นเรื่องของหนุ่มชาวนาที่ ทำนาตั้งแต่เช้าจนเพล มารดาส่งข้าวสายเกิดหิวข้าวจนตาลาย อารมณ์ชั่ววูบทำให้เขากระทำมาตุฆาตด้วยสาเหตุเพียงว่าข้าวที่เอามาส่งดูจะ น้อยไปไม่พอกิน ครั้นเมื่อกินข้าวอิ่มแล้ว ข้าวยังไม่หมดจึงได้สติคิดสำนึกผิดที่กระทำรุนแรงต่อมารดาของตนเองจนถึงแก่ ความตาย จึงได้สร้างพระธาตุก่องข้าวน้อยแห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลขออโหสิกรรมและล้างบาปที่ตนกระทำมาตุฆาต
นอกจากนี้ที่บริเวณบ้านตาดทอง กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดค้นเรื่องราวของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และภาชนะลายเขียนสีแบบบ้านเชียงอีกด้วยน่ะครับ  ผ่านไปแป้ปเดียว  สำหรับวันนี้ ก็น่าจะพอกันแล้วน่ะครับ  สำหรับการเที่ยวไป กินไป แถวบ้านตัวเองนี่แหละครับ  เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองมองข้ามไป   ระยะทางในวันนี้ ก็เลย 100 กิโลเมตรมานิดๆเองครับ  ได้ได้เที่ยวได้ไหว้พระ  สำหรับวันนี้  ก็ต้องลากันไปก่อนครับ  ติดตามอ่าน ตามชมรูปสวยๆ ทิปหน้าเด้อคร้าบบบบ…

เรียบเรียง โดย เอฟ ฟอร์ด
ข้อมูลอ้างอิง จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รูปภาพ โดย Esanphoto.com